ป.ป.ส.โชว์จับยาไตรมาสแรก ยอดรายย่อยพุ่งขึ้น 30% กว่า 23,000 คดี

714

ป.ป.ส. แถลงผลจับยาไตรมาสแรก ยอดรายย่อยพุ่งขึ้น 30% กว่า 23,000 คดี ด้านสธ.เร่งขยายหอดูแลบำบัดผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดทั่วประเทศ แบ่งดูแลตามระดับร้ายแรง

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.สมพงษ์ ใจจา รองผอ.ศปป2กอ.รมน. น.พ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลงานการปราบปรามยาเสพติด ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 66 ถึง 31 ธ.ค. 66 ตามปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปี Quick Win และการแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมาตรการตามนโยบายของรัฐบาล โดยผลการดำเนินงานด้านการสืบสวนปราบปรามของตำรวจปราบปรามยาเสพติด

โดยพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ระบุว่า ผลการดำเนินด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วง 3 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2566 มีการสกัดกั้นปริมาณยาเสพติดไปแล้ว กว่า 200 ล้านเม็ด โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 80 ไอซ์ 3 ตัน มีการจับกุมผู้ค้ารายสำคัญไปแล้วกว่า 268 คดีเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 10 จับกุมผู้ค้ารายย่อย 23,000 คดี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30

ขณะที่ ข้อมูลจากศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขง ความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้แก่ ประเทศ เมียนมา ไทย เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา มีทั้งหมด 275 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด 519 คน ของกลางยาเสพติด แบ่งเป็น ยาบ้า 202 ล้านเม็ด ไอซ์ 3,816 กิโลกรัม กัญชา 20 กิโลกรัม เฮโรอีน 295 กิโลกรัม คีตามีน 2,578 กิโลกรัม เอ็กซ์ตาซี 108,538 เม็ด กาแฟอีน 800 กิโลกรัม สารตั้งต้น สารเคมี 51,981 กิโลกรัม.

โดยแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครอบคลุมในพื้นที่เชียงใหม่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว ไชยปราการ ฝาง แม่อาย เวียงแห จังหวัดเชียงราย 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงของ เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย เวียงแก่น จังหวัดนครพนม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าอุเทน ธาตุพนม บ้านแพง เมืองนครพนม ซึ่งมีการสนธิกำลังจากส่วนที่เกี่ยวข้องในการลาดตระเวน รวมถึงร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย กว่า1,000 หมู่บ้าน ในการช่วยกันเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน การตั้งด่านจุดตรวจต่างๆ การปิดล้อมตรวจค้นสืบสวนขยายผล

ด้าน พล.ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า กอ.รมน.ได้มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ Taskforce 24 และชายแดนภาคเหนือ หรือ Taskforce 35 ที่มีการสกัดกั้นยาเสพติดเข้มข้น ขยายผลลาดตระเวน ตั้งด่านและจุดตรวจยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 372 คน ยึดยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด และเฮโรอีน 0.8 กิโลกรัม มีการติดกล้องซูมเฝ้าระวังแม่น้ำโขง เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

ด้านน.พ.กิตติศักดิ์ บอกว่า ในภาคการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้ว 19,638 ราย จากเป้าหมาย 91,317 ราย คิดเป็น 21.51% พัฒนาพฤตินิสัยโดยกระบวนการยุติธรรมได้ 22,129 ราย จาก 66,300 ราย คิดเป็น 33.38% นอกจากนี้เป็นการบำบัดผ่านการมีส่วนร่วมของชุมนุมได้ 423 ราย

ส่วนการรักษาผู้มีอาการจิตเวชจากยาเสพติด ตามนโยบาย Quick Win ระยะที่ 1 ในพื้นที่เสี่ยง 85 อำเภอใน 30 จังหวัด มีเป้าหมายทั้งสิ้น 4,414 คน เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว 1,052 คน คิดเป็น 24% นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยจิตเวชรายใหม่ 354 คน นำเข้าสู่การรักษาแล้ว 202 คน คิดเป็น 57%

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งขยายหอดูแลบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะแบ่งดูแลตามความร้ายแรงของอาการ ขึ้นผู้ป่วยสีแดง สีส้ม สีเหลือง และสีเขียว มีโรงพยาบาลจิตเวช 20 แห่ง โรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค 7 แห่ง และโรงพยาบาลระดับจังหวัด 127 แห่งดูแลผู้ป่วยสีแดง มีโรงพยาบาลระดับอำเภอ 153 แห่ง ดูแลผู้ป่วยสีส้ม และสาธารณสุขชุมชน 776 แห่ง ดูแลผู้ป่วยสีเหลือง

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยอีกว่า ตนได้เดินทางไปพูดคุยกับ รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบและหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สปป.ลาว เพื่อหารือความร่วมมือในการดำเนินคดีกับ 48 ผู้ต้องหารายสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลบหนี โดยหนึ่งในนั้นคือนายอ่อง กิม วาห์ ผู้ต้องหายาเสพติดสัญชาติมาเลเซีย รายสำคัญอันดับ 1 ของ ป.ป.ส. ค่าหัว 1 ล้านบาท ซึ่งทาง สปป.ลาวตกลงจะส่งตัวนายอ่องให้ทางการไทยดำเนินคดีเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสามารถลดการค้ายาเสพติดอย่างไอซ์ เฮโรอีน โคเคนได้ถึง 70%

โดยเครือข่ายของนายอ่องเป็นเครือข่ายใหญ่มาก เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมยาบ้าได้กว่า 4.4 ตัน และนายอ่องมีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซียถึง 8 บริษัท มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์