ผ่าวัฒนธรรมย้ายตำรวจ คนทำงานวืด-คนทำเงินผงาด กฎใช้กับสีกากี”ไร้เส้น-ไร้เงิน”                       

927

       เคยยกข้อความในเฟสบุ๊คที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ กรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์ถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.ป-สารวัตร(สว.) ว่ามีหลากหลายปัญหา มาเขียนถึงแล้วครั้งหนึ่ง

       แต่ครั้งนี้อยากหยิบบางปัญหามาขยายความนั่นคือปัญหาที่ พล.ต.อ.เอก ระบุว่า การแต่งตั้งรองผู้กำกับการ(รองผกก.) ขึ้นเป็นผกก. ซึ่ง พ.ต.ท.ภูมิระพี ผลาภูมิ วิเคราะห์ไว้เกี่ยวกับสถิติการแต่งตั้งรองผกก.(สอบสวน)เป็นผกก.(สอบสวน) โดยกล่าวรวมถึงตำแหน่ง ผกก.หน..สน./สภ. เพราะตำแหน่ง ผกก.หน.สน./สภ. เป็นตำแหน่งสำคัญที่ต้องควบคุมกำกับดูแลงานสอบสวน

       ปรากฏว่ารอง ผกก.(สอบสวน)ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.(สอบสวน)น้อยมากและได้รับการแต่งตั้งเป็นผกก.หน.สน./สภ.ยิ่งน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับรอง ผกก.ป.และรอง ผกก.สส. สะท้อนถึงความก้าวหน้าในชีวิตราชการของผู้ดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนค่อนข้างมืดมน….”

       ปัญหานี้ในแวดวงสีกากีต่างทราบกันดีว่าทำไม รอง ผกก.ป.และรองผกก.สส.ถึงได้รับการแต่งตั้งมากกว่ารองผกก.(สอบสวน) เนื่องจากรอง ผกก.(สอบสวน) จะรับผิดชอบงานเกี่ยวกับสำนวนคดี สอบสวนปากคำผู้ต้องหา ผู้เสียหายและพยาน เพื่อทำสำนวนคดีส่งผู้บังคับบัญชาเพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องและไม่ฟ้อง

          จึงแทบจะไม่มีช่องทางหาประโยชน์ได้เลย เว้นคดีนั้นผู้ต้องหาต้องการเคลียร์กับผู้เสียหายให้จบในชั้นโรงพัก จะมีปัจจัยติดปลายนวมให้พนักงานสอบสวนบ้างและปัจจัยนี้จะส่งถึง ผกก.หัวหน้าโรงพัก แต่จะเป็นส่วนน้อย

         ขณะที่ รอง ผกก.ป.หรือรอง ผกก.สส. จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจในท้องที่เกือบทุกชนิด ทั้งธุรกิจถูกฎหมายและธุรกิจหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย สามารถที่จะหาผลประโยชน์ได้ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ่อนการพนัน หวยใต้ พนันออนไลน์ และสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลาหรือ สถานบันเทิงไม่มีใบอนุญาตประกอบการ

         ธุรกิจเหล่าบรรดารอง ผกก.ป. สวป. รองสวป.ยันชั้นประทวน และ รองผกก.สส. สว.ส. รอง สว.ส.ยันชั้นประทวน ล้วนแต่มีส่วนเอี่ยวแทบทั้งสิ้น
บางโรงพักหัวหน้าโรงพักจะมอบหมายรองผกก.ป.หรือรอง ผกก.สส. เป็นแม่บ้านคอยดูแลผลประโยชน์ที่โรงพักพึงได้รับแล้วรวบรวมแจกจ่ายกันไป ทั้งหัวหน้าโรงพัก ส่งถึง ผบก.ยันผู้บัญชาการ(ผบช.) มีทั้งแบบรายเดือนและรายการพิเศษในวาระต่างๆ

        จะแตกต่างกับพนักงานสอบสวน ที่แทบจะไม่มีรายได้ส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาทั้งระดับโรงพักและกองบัญชาการ(บช.)จึงไม่แปลกที่ รอง ผกก.(สอบสวน)จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.น้อยกว่ารองผกก.ป.หรือรอง ผกก.สส. แถมบางครั้งเด็กนายที่ไม่สามารถเบียดขึ้นผกก.หัวหน้าโรงพักได้  มาเบียดบังเอาตำแหน่ง ผกก.(สอบสวน)อีกต่างหาก จึงเข้าทำนองคนทำงานไม่ได้ตำแหน่งแต่คนทำเงินได้ผงาด แถมบางคนสามารถเลือกโรงพักทำเลทองได้อีกต่างหาก

       หากโรงพักใดที่ ผกก.หัวหน้าโรงพัก อยู่ในพื้นที่ทำเลทอง แต่ทำงานตรงไปตรงมา หาประโยชน์ส่งนายน้อย อยู่ได้เพียงปีเดียวจะถูกปรับเปลี่ยนไปอยู่โรงพักที่ผลประโยชน์น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย เพราะผู้บังคับบัญชามองว่าอยู่ไปก็เสียของ

       อีกปัญหาที่ พล.ต.อ.เอก โพสต์ไว้ คือจับคู่ย้าย ตำรวจยื่นคำร้องต่อผู้บังคับบัญชาสมัครใจจับคู่ย้าย ขอกลับไปยังหน่วยที่เคยสังกัดหรือภูมิลำเนา เพื่ออุปการะครอบครัว แต่ปรากฏว่าบางคู่ย้ายไม่ได้ เพราะต้นสังกัดไม่ปล่อยตัวและหน่วยปลายทางไม่ยอมรับตัวการจับคู่ย้ายเกิดขึ้นในยุคที่“พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง”เป็นผบ.ตร.ผลดำเนินการเป็นไปด้วยความราบรื่นในทุกระดับ  

    แต่ยุคนี้กลับมามีปัญหา ซึ่งในแวดวงสีกากีต่างนินทากันว่าเพราะผู้บริหารระดับสูงบาง บช. ไม่อยากรับตัวเพราะเกรงว่าเมื่อรับมาแล้วจะมีลำดับอาวุโสสูงกว่าคนใกล้ชิด ที่จะใช้ความอาวุโสผงาดสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ตามกฎหมายตำรวจ 2565 จะทำให้ผู้บริหารกองบัญชาการสามารถผลักดันคนของตัวเองได้อีก 2หรือ 3 ตำแหน่ง

     แต่ถ้ารับตัวมาแทนที่คนใกล้ชิดจะได้ 3 หรือ 4 ตำแหน่งรวมทั้งอาวุโสด้วย จะลดลงเหลือ 2 หรือ 3 ตำแหน่ง และตำแหน่งเหล่านี้อาจจะมีปัจจัยมาแลกด้วยอีกต่างหาก

       ชาวสีกากีบางคนตั้งข้อสังเกตว่าการจับคู่ย้าย ทาง ผบช.ทั้งสองอาจจะเจรจาลับกันว่าจะไม่นำประเด็นจับคู่ย้ายเข้าพิจารณาในการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะจะทำให้คนใกล้ชิดเสียโอกาสในการแต่งตั้งในวาระต่อไป

       ประเด็นนี้จะจริงเท็จประการใด ทาง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่จะนำปัญหาจับคู่ย้ายเข้าพิจารณาในที่ประชุม ก.ตร. เพื่อหาแนวทางแก้ไข ลองสอบถามจากตำรวจที่จับคู่ย้ายแล้วไม่สมหวังเผื่อจะมีคำตอบบ้างหรืออาจจะมีปัญหาอื่นที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ใน บช.ที่ผบช.ไม่อยากดำเนินการจับคู่ย้าย

     หา ก.ตร.ยังไม่สามารถที่จะสะท้อนปัญญานี้ถึง ผบ.ตร.ได้ ในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รอง สว.ถึงชั้นประทวน ปัญหาจับคู่ย้ายอาจจะเกิดขึ้นอีกก็เป็นได้

    จากข้อมูลที่นำเสนอเชื่อว่าชาวสีกากีต่างรับรู้ เพราะเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นวัฒนธรรมคู่องค์กรก็ว่าได้ ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายคนทำงานแทบจะไม่ได้รับการเหลียวแล แต่คนทำเงินจะได้รับการดูแลอย่างดี

     กฎกติกาที่เข้มงวดจะบังคับใช้กับคนที่ไร้เส้นไร้เงินเท่านั้น !!!