สัปดาห์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีแก๊งพนันออนไลน์ เกิดขึ้นหลายกรณีมีทั้งการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบคดีรีดเงิน 140 ล้านบาทจากเว็บพนันออนไลน์ มีวลีเด็ดว่า”เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” รวมถึงคดีเว็บพนันออนไลน์วีนัส มาสเตอร์”
คดีแรกรีดเงิน 140 ล้าน เดิมมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่แทน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2566 มีผลให้ผู้มีชื่อในคำสั่งบางตำแหน่งเปลี่ยนแปลงและบางคนเกษียณอายุราชการ
คดีดังกล่าวมีการกล่าวหานายพลตำรวจกับพวกรวม 10 คน ตลอดจนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เรียกรับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์นำตัวไปรีดเงิน 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเคลียร์คดี
ต่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยไม่พอใจกับพฤติกรรมของตำรวจชุดจับกุม จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจชุดดังกล่าว คดีนี้จบลงแบบไหนคงต้องติดตาม
แต่เบื้องหลังคดีมีข่าวสะพัดว่าเดิมกลุ่มผู้ต้องสงสัยเว็บพนันออนไลน์ อยู่ใต้ร่มเงาของบิ๊กตำรวจบางคน มีการจัดส่งส่วยแบบรายเดือนและดูแลแบบส่วนตัว พอดำเนินการธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ไปสักระยะมีผลกำไรค่อนข้างมาก แต่ค่านักเลงยังราคาเดิม
ส่งผลให้บิ๊กตำรวจ มักจะเรียกปัจจัยเพิ่มบ่อยครั้งสร้างความอึดอัดให้กับเจ้าของเว็บพนันฯ จึงวางแผนนำข้อมูลไปแจ้งให้กับบิ๊กตำรวจที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน กระทั่งมีการแจ้งจับกัน
ซึ่งการเลี่ยนแปลงหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนครั้งนี้ มีข่าวสะพัดว่าต้องการเจาะยางนายตำรวจบางคนในชุดเดิม เพื่อเก็บข้อมูลไว้ในกำมือ
อีกคดี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) สั่งสืบสวนขยายพลจากการจับกุมเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ปรากฏว่ามีเว็บพนันวีนัสมาสเตอร์เกี่ยวข้องด้วยมีจุดการตลาดตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และสมุทรปราการ
จึงสั่งการให้ตำรวจบุกจับกุมผู้ต้องหาได้ 36 ราย มีหมายจับ 4 คน มีตำรวจคนสนิทบิ๊กตำรวจรวมอยู่ได้ และเข้ามอบตัวที่ สน.เตาปูน
สำหรับวีนัสมาสเตอร์ รายงานระบุว่าเป็นเครือข่ายของเว็บพนันรายใหญ่ มีนายตำรวจเป็นถือผู้บัญชีม้า รับเงินจากหญิงสาวชื่อแหม่ม ทำหน้าที่โอนเงินจากเว็บพนันวีนัส มาสเตอร์ และแหม่ม ยังเป็นผู้รับเงินจากเสี่ยอู๊ด ใหญ่ตระเวนเก็บเงินในพื้นที่ภาคใต้ และสนิทกับ พ.ต.ท.ผู้ถือบัญชีม้า
สำหรับ เสี่ยอู๊ด ในแวดวงตำรวจภาคใต้ต่างทราบกันดีว่าเป็นคนสนิทของบิ๊กตำรวจคนไหน แม้แต่ตำรวจท้องที่ยังไม่กล้าที่จะเดินทับเส้นทาง หากจะทับเส้นทางเสี่ยอู๊ด จะคุยข่มว่าจะโทรแจ้งบิ๊กตำรวจคนดังกล่าว แต่ละท้องที่ต่างทราบถึงฤทธิ์เดชของบิ๊กตำรวจคนนี้ดี จึงยอมหลีกทาง คดีจะเดินอย่างไรจะสาวถึงบิ๊กคนไหนนั้นต้องติดตาม
แต่ในเชิงการนำเสนอข่าวพลันที่การจับกุมแก๊งวีนัสมาสเตอร์ถูกนำเสนอออกไป มีข้อมูลอีกด้านหนึ่งเกี่ยวกับการส่งส่วยถูกตีแพร่ผ่านสนามข่าวช่อง 7 สี เนื้อหาระบุว่าเว็บพนันออนไลน์หลายเว็บได้จ่ายส่วยให้ใครบ้าง มีการแบ่งแยกประเภท อาทิ กองปราบฯ 20,000 บาท ไซเบอร์ 4 จำนวน 180,000 บาท ไซเบอร์ 3 จำนวน 250,000 บาท ไซเบอร์ 5 จำนวน 20,000 บาท ท่องเที่ยว 10,000 บาท ท้องที่ภาค 6 จำนวน 10,000 บาท สอท. 30,000 บาท
นอกจากมีค่าใช้จ่ายประจำห้ามหนี ระบุว่าจ่าย กองปราบ 20,000 บาท พี่ไตรรง 200,000 บาท ไซเบอร์ 3 (พี่แมน) 25,000 บาท พี่ ป.100,000 บาท และผู้การ สอท 80,000 บาท เป็นต้น
ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ต้องเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องทำความจริงให้กระจ่างว่าบัญชีส่วยที่ถูกนำเสนอว่าเว็บพนันออนไลน์หลายเว็บ จัดส่งนั้นถึงมือใครบ้าง
รวมถึงเว็บพนันวีนัสมาสเตอร์ มีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะในโทรศัพท์มือถือของสาวชื่อแหม่ม มีหลักฐานการโอนเงินอย่างชัดเจน หากใครได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ตั้งแต่เครือข่ายมินนี่ จนถึงเว็บพนันวีนัส มาสเตอร์ พอจะเดาทางออกว่าข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีส่วยที่ถูกนำเสนอผ่านสนามข่าวช่อง 7 สี ปล่อยมาจากทางไหน มีเป้าหมายเพื่อดิสเครดิตกันหรือไม่ ?
แต่ในแวดวงสีกากีต่างนินทากันว่าข่าวที่ถูกนำเสนอเสมือนการแลกหมัดเอาคืนกันแบบหักเหลี่ยมเฉือนคม ของบิ๊กตำรวจที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อมูลความสกปรกอยู่ในมือพอๆกัน ซึ่งเป็นที่รับรู้กันอยู่ว่าใครเทามากเทาน้อย ระหว่างเทาคุณธรรมกับเทาอำมหิต
ดังนั้นหากปะดาบกับแบบไม่มีถอยยุทธจักรโล่เงินคงสะท้านรับปีใหม่แน่นอน !!!
