ตร.ไซเบอร์เตือนภัย เพจขายลอตเตอรี่ (Lottery) ออนไลน์ปลอมระบาดหนัก!!

670

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่มีผู้เสียหายถูกรางวัลจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ (Lottery) แต่ไม่ได้รับเงินรางวัล เนื่องจากภายหลังพบว่าตนถูกหลอกลวงให้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมของมิจฉาชีพ ซึ่งได้ถูกปลอมเป็นผู้ให้บริการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ออนไลน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง นั้น

การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ ที่ผ่านมามิจฉาชีพมักจะปลอมเพจเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อเหมือน หรือใกล้เคียงกับเพจจริง แอบอ้างใช้สัญลักษณ์บริษัท หรือหน่วยงานนั้นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นเพจปลอมหลอกลวงขายสินค้า หรือบริการออนไลน์ เพจหน่วยงานราชการปลอม เพจบริษัทห้างร้านปลอม เพจสถาบันการเงินปลอม เพจที่พักปลอม เป็นต้น

นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 25 9.ค.66 มีประชาชนถูกหลอกลวงซื้อขายสินค้า และบริการออนไลน์ สูงเป็นลำดับที่หนึ่งกว่า 140,836 เรื่อง หรือคิดเป็น 40.27% ของจำนวนเรื่องการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีความเสียหายรวมกว่า 2,041 ล้านบาท

บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงขายสินค้า หรือบริการออนไลน์

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการใช้งาน หรือเข้าถึงบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างการติดต่อกับหน่วยงาน หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ควรตรวจสอบช่องทางเหล่านั้นให้ดีเสียก่อนว่าเป็นของหน่วยงาน หรือร้านค้านั้นจริงหรือไม่ ขอให้ประชาชนมีสติ ไม่หลงเชื่อง่ายๆ แม้ว่ามิจฉาชีพจะเปิดเพจใหม่ที่เหมือนเพจจริงมาหลอกลวงอย่างไร ถ้ามีประชาชนมีสติ ไม่หลงเชื่อ ตรวจสอบอย่างรอบคอบเสียก่อน ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา บช.สอท. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือศูนย์ AOC 1441 ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อ 1 พ.ย.66 ที่ผ่านมา เพื่อให้มีการบูรณาการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ มีศูนย์ One Stop Service สามารถดำเนินการอายัดบัญชีของมิจฉาชีพให้แก่ประชาชนได้ทันที รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับคดีออนไลน์ ผ่านสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ พร้อมแนวทางการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนี้

(1)​ระมัดระวังการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่มีหน้าร้าน ควรติดต่อซื้อจากบริษัท หรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง

(2)​หากจะซื้อสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊ก ต้องระมัดระวังเพจปลอม หรือเพจลอกเลียนแบบของมิจฉาชีพ โดยเพจจริงควรจะมีผู้ติดตามสูง บัญชีถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนชื่อที่น่าสงสัย และมีรายละเอียดการติดต่อที่ชัดเจน สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามได้

(3)​ตรวจสอบความโปร่งใสของเพจ ว่ามีการเปลี่ยนชื่อมาก่อนหรือไม่ ผู้จัดการเพจอยู่ในประเทศหรือไม่ หากไม่ได้อยู่ในประเทศอาจจะเป็นมิจฉาชีพ

(4)​ ก่อนโอนชำระเงินค่าสินค้า ให้ตรวจสอบชื่อบัญชี และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน ว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, Blacklistseller เป็นต้น ในกรณีนี้ควรโอนเงินชำระค่าสลากผ่านบัญชีบริษัท
เท่านั้น หากเป็นชื่อบุคคลธรรมดาให้สันนิษฐานว่าเป็นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ

(5)​หากมีการให้โอนเงินไปเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าใดๆ ก็ตามให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพเช่นกัน

(6)​ ช่วยกันกดรายงานบัญชี หรือเพจในเฟซบุ๊กปลอม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อ

(7)​ หมั่นติดตามข่าวสารของทางราชการอยู่เสมอ

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์