ผบช.น. สั่ง จนท. ลงพื้นที่ค้นหาเด็กเพิ่ม 2 ราย พื้นที่เขตสายไหม โยงคดีพ่อเหี้ยมฆ่าลูกโบกปูน จ.กําแพงเพชร - พบพฤติกรรมพ่อเหี้ยมคลั่งเสียงเด็กร้อง ฆ่าลูก 5 ศพ
วันที่ 20 ก.ย. 66 ที่ บช.น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลหารือแนวทางการสืบสวน คดีพ่อแม่ใจเหี้ยมฆ่าลูกน้อยวัย 2 ขวบโบกปูนที่จ.กำแพงเพชร หลังมีกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ว่า ก่อนหน้านี้ได้ฆ่าลูกที่เกิดกับภรรยาเก่าถึง 4 คน ในช่วงปี 2556 2557 2559 2561 ตามลำดับ
พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าจากการสันนิษฐานเบื้องนอกเหนือจากเด็ก 2 ขวบที่ถูกฆ่าโบกปูนในพื้นที่ จ.กำแพงเพชรแล้ว ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าอาจจะมีเด็กอีก 4 ราย ซึ่งเป็นลูกของผู้ก่อเหตุกับภรรยาอีก 1 คน ที่หายไป ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2556 และ 2557 ซึ่งมีเด็กทารกถูกนำไปทิ้งไว้ริมถนนย่านสวนสาธารณะจตุจักร ในพื้นที่เขตบางซื่อ โดยรายแรกมีอายุ 2 เดือน และรายที่ 2 มีอายุ 10 เดือน ทั้ง 2 รายเป็นเพศชาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการถูกทำร้ายร่างกายและเสียชีวิตผิดธรรมชาติ โดยจะนําขัอมูล DNA ของเด็กทารกทั้ง 2 มาเปรียบเทียบกับผู้ต้องหาและเด็กที่เสียชีวิตรายล่าสุดว่าตรงกันหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดําเนินการตรวจสอบ
ส่วนกรณีเด็กอีก 2 คนที่สูญหายไป อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแม่เด็กทั้ง 4 คน อ้างว่านำเด็กอีก 2 คนไปทิ้งในพื้นที่เขตสายไหม ในช่วงปี 2559 และ 2561 ซึ่งเด็กที่ถูกนำไปทิ้งทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 1 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบและค้นหา
จากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 3 คน คือนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา และภรรยา 2 อีกสองคน ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการเสียชีวิตของเด็กทั้งสองคนที่พบในพื้นที่บางซื่อนั้น จะเป็นฝีมือของผู้ต้องหาหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหาพยานหลักฐาน
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติการรักษาผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อปีพ.ศ 2559 และได้ขาดช่วงการรักษาไป ซึ่งต้องเชิญแพทย์เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาว่าจริงเท็จอย่างไร แต่ยืนยันว่าผลการรักษาไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีอย่างแน่นอน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ เคลื่อนย้ายศพ”
ตำรวจพบพฤติกรรมพ่อเหี้ยมคลั่งเสียงเด็กร้อง ฆ่าลูก 5 ศพ ก่อนขู่ทำร้ายให้เมียทิ้งศพลูกช่วยอำพรางคดี
พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลบางเขน ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบพฤติกรรมของนายส่องศักดิ์ ส่งแสง อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาฆ่าโบกปูนลูกสาววัย 2 ขวบ มักจะทำร้ายร่างกายลูก ในช่วงเวลากลางวันที่เมียออกไปทำงาน แล้วตัวเองอยู่กับลูกเพียงลำพัง โดยอ้างว่า เวลาที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง จะเกิดความหงุดหงิดและรำคาญ จึงลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นการก่อเหตุซ้ำๆจนกระทั่งลูกเสียชีวิต
ขณะที่ตอนเกิดเหตุทำร้ายลูกคนแรกเสียชีวิต ในบ้านพัก แล้วเมีย คือ นางสาวเจษฎา มีเพียร กลับมาพบ นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา ก็ได้ข่มขู่ไม่ให้ไปแจ้งความ พร้อมกับบังคับให้นำศพลูกไปทิ้งอำพรางคดี จากนั้นเมื่อก่อเหตุทำร้ายลูกคนต่อไปเสียชีวิต ก็ได้บังคับให้เมียนำศพไปทิ้งเช่นเดิม แต่ได้ข่มขู่ว่าหากไม่ทำตาม จะนำเรื่องการทิ้งศพลูกคนแรกเข้าแจ้งความกับตำรวจ พร้อมทั้งยังข่มขู่จะไม่ให้พบหน้าลูกที่เหลืออีกด้วย ทำให้เมียเกิดความกลัว แล้วทำตามคำสั่งของนายส่องศักดิ์ เรื่อยมา โดยที่ก็ไม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิดผัวตัวเอง แล้วปล่อยให้เกิดเหตุจนทำให้ลูกชายเสียชีวิตถึง 4 คน
ล่าสุดจากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงกับกรณีพบศพเด็กถูกทิ้งในพื้นที่สน.บางซื่อ 2 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ มีข้อมูลชันสูตร ที่มีการเก็บดีเอ็นเอของเด็กไว้แล้ว หลังจากนี้ก็จะนำดีเอ็นเอที่มีไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา และแม่เด็ก เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์การเป็นพ่อแม่ลูกกัน เพื่อใช้ในการดำเนินคดีต่อไป ส่วนลูกอีก 2 คน ของนางสาวเจษฎา ที่คาดว่าเสียชีวิตและถูกฝังไว้ในพื้นที่ สน.สายไหม ยังไม่พบสำนวนการชันสูตร และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งก็มีเป็นไปได้ว่านายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา จะเป็นผู้สังหารลูกแท้ๆ ของตัวเอง แต่ในส่วนของวิธีการก่อเหตุนั้น ต้องรอสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดก่อน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบนายส่องศักดิ์ เคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิตเวชที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มีเมียหลายคน ก็พบว่าเป็นลักษณะของการคบซ้อน ทำให้ลูกทั้ง 10 คน อายุ ไล่เรี่ยกัน
