นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเผยแพร่ภาพสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หลับในห้องประชุมระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ว่า ภาพที่สื่อมวลชนรัฐสภาถ่าย ไม่ใช่การตกแต่งภาพหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่เป็นภาพจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งคำพูดล้านคำยังไม่เท่าภาพที่เห็น หากสมาชิกสนช. ทำหน้าที่แทนประชาชนเจ้าของเงินภาษี ด้วยการอภิปรายให้ข้อคิด ทักท้วง ติดตาม ตรวจสอบ ในการตั้งงบประมาณแบบขาดดุลติดต่อกันถึง 4 ปี เป็นเงินหลายล้านล้านบาท จนไม่รู้ว่าลูกหลานจะใช้หนี้หมดเมื่อใด เชื่อว่าจะไม่มีใครง่วงอย่างแน่นอน และหากสมาชิกสนช.คนใดไม่สบาย รัฐสภาก็มีแพทย์พยาบาลหรือส่วนนั่งพักให้บริการ หรือถ้าไม่ไหวก็ควรลาออกไปพักผ่อนเลี้ยงเหลนที่บ้าน
นายจิรายุกล่าว กรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. ออกมาโทษว่าสื่อบิดเบือนนั้น เพื่อนๆสื่อจำนวนมากโทร.มาบ่นกับตนว่า หมดแล้วยุค “นกน้อยในไร่ส้ม” แต่ยุคนี้มีแต่ยุค “ถิ่นกาขาว” และ “นกน้อยในดงปืนที่ชื่นชมกลิ่นเผด็จการ” นายสมชายเคยเป็นสื่อ แม้จะได้ดิบได้ดีจากการปฏิวัติรัฐประหาร ก็น่าจะมีรากฝอยของคนที่เคยได้รับเกียรติว่าเป็นฐานันดร 4 บ้าง นายสมชายควรเป็นโต้โผตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างถึงลูกถึงคน ทำหน้าที่แทนประชาชน และควรนึกถึงหน้าของชาวบ้านคนจนๆที่ต้องเสียภาษีให้พวกท่านเข้าไปนั่งชูคอในสภาที่พวกเขาไม่ได้เลือกด้วย
“วันนี้สิ่งที่ประชาชนอยากฟังคือ การจัดทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นทุกปีต่อเนื่องมาถึง 4 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแผนอย่างไรในการใช้หนี้ ควรใส่แผนการหาเงินใช้หนี้เข้าไปในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย เมื่อลูกหลานเติบโตขึ้นมาจะได้รู้อนาคตว่าจะต้องเป็นหนี้กี่ปี จะใช้หนี้อย่างไร หรือจะต้องขอกู้เงินจากกองทุนระหว่างประเทศ อีกหรือไม่” นายจิรายุ กล่าว