ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย) ที่สน.นางเลิ้ง พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผกก.สน.นางเลิ้ง, พ.ต.ท.สุทธิโรจน์ จารุสินธุพงศ์ รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสมชัย ทองเหลือง อายุ 60 ปี ภายหลังก่อเหตุกระทำอนาจารบริเวณหน้าตลาดนางเลิ้ง ถ.นครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบฯ กทม.
พล.ต.ต.ดร.เสนิต กล่าวว่า การจับกุมในผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งจากน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ถูกชายไทยไม่ทราบชื่อขับขี่รถจยย.สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สวมเสื้อวินรถรับจ้างจยย.ขับมาอยู่ด้านข้างขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินอยู่ริมถนน พร้อมกับชักของลับออกมา และช่วยเหลือตนเองให้ตนดู โดยพูดจาในลักษณะลวนลามว่า “ทำไมขาวจังเลย น่าเลียจัง ขาวจังเลย” พูดวนไปวนมา ผู้เสียหายจึงนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปชายดังกล่าวเอาไว้ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขับรถจยย.หลบหนีไปทางแยกจักรพรรดิพงษ์
พล.ต.ต.ดร.เสนิตฯ กล่าวอีกว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความ ได้นำภาพถ่ายที่ผู้เสียหายสามารถบันทึกไว้ได้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายคนดังกล่าว ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดง ทะเบียน 1 กข 9936 กรุงเทพฯ จากนั้น จึงทำการไล่ตามภาพกล้องวงจรปิด กระทั่งพบอยู่บริเวณหน้าสถาบันประสาทวิทยา ถ.ราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชวิถี กทม. จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายสมชัยฯ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยนายสมชัยประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่เขตราชเทวี ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะตนเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 3 เดือน เห็นผู้เสียหายใส่กางเกงขาสั้น จึงเกิดอารมณ์เปลี่ยว และทำให้ก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “กระทำอนาจาร” และ “ก่อความเดือดร้อนรำคาญ”นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ดร.เสนิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังเขตราชเทวีเพื่อพิจารณาโทษว่า จะมีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ โดยทางสำนักงานเขตฯชี้แจ้งว่า ต้องมีการดำเนินคดีที่ศาลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นทางเขตจะมีการพิจารณาว่าจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ ต่อไป
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมชัย เคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว