เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.,ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปตรวจสอบ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด จะโอนเงินกลับคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีเดียวกันรวมเป็นเงินจำนวน 1,170,000 บาท สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผู้ต้องหารับว่าบัญชีดังกล่าวที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปก่อเหตุเป็นของตนจริง ได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคารครั้งละ 1,000 บาท
โดย ข้อสั่งการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,ตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.เวลา 16.30 น.ของวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมาได้จับกุมตัวนายนิพนธ์ บุญแสง อายุ 30 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 37 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ
ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมายจับ(1.)ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 245/2565ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565ฐานความผิด”ฉ้อโกงทรัพย์และโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”(2.)ศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ96/2565ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2565ฐานความผิด ในข้อหา”ร่วมกันฉ้อโกงและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”สถานที่จับกุม หน้าบ้านเลขที่ 37 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายในจังหวัดปทุมธานี ร้องเรียนมายังเพจ สืบสวนนครบาลIDMB ว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปตรวจสอบ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด จะโอนเงินกลับคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีชื่อนายนิพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) รวมเป็นเงินจำนวน 340,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่ได้รับโอนเงินกลับคืนและไม่สามารถติดต่อกับผู้รับโอนได้ เชื่อว่าถูกหลอกลวงจนเกิดความเสียหาย จึงได้ร้องทุกข์ไว้ และยังมีผู้เสียหายในจังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้โอนเงินไปตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีเดียวกับข้างต้น รวมเป็นเงินจำนวน 1,170,000 บาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้เช่นกัน
นายนิพนธ์ฯผู้ต้องหาให้การว่า บัญชีดังกล่าวที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปก่อเหตุเป็นของตนจริง ซึ่งตนได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคารครั้งละ 1,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าเอาบัญชีไปทำอะไร จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตและขอเตือนใครที่มีความโลภเห็นแก่ผลกำไรโดยเปิดบัญชีม้าจะต้องไม่มีความสุขในการใช้เงิน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.