ธนาคารกรุงไทย จับมือ กรมบัญชีกลาง ยกระดับการให้บริการการใช้สิทธิ เบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และบริการชำระค่ารักษาพยาบาลผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง สามารถตรวจสอบและเบิกจ่ายตรงได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเชื่อมต่อระบบโรงพยาบาลกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ ผ่าน Application Programming Interface (API) โดยมี 6 โรงพยาบาลนำร่องที่พร้อมให้บริการ ได้ในปี 2565 และภายในต้นปี 2566 มีแผนเปิดให้บริการกับอีก 15 โรงพยาบาล และมีแผนจะดำเนินการให้ครบถ้วนทุกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับกรมบัญชีกลางทั่วประเทศในอนาคต โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกรมการแพทย์ สังกัดกระทรวงกลาโหม สังกัดกรุงเทพมหานคร และสังกัดกระทรวงอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ ที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว สามารถลดขั้นตอนและลดความแออัดให้กับโรงพยาบาล และเป็นการยกระดับการให้บริการด้านสวัสดิการและรักษาพยาบาลให้แก่ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวในการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้นในทุกวัน ด้วยวิสัยทัศน์ “กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” ธนาคารเดินหน้ายกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศโดยพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform มาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนงานด้านการรักษาพยาบาลและสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 Ecosystems หลักของธนาคาร โดยร่วมกับกรมบัญชีกลางและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ยกระดับบริการด้านสาธารณสุขให้กับข้าราชการของประเทศ เชื่อมต่อข้อมูลให้สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการแบบเรียลไทม์ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่พัฒนาโดยบริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย ให้รองรับผู้มีสิทธิในระบบเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ภายใต้กรมบัญชีกลาง ทั้งข้าราชการปัจจุบัน ข้าราชการเกษียณอายุ รวมถึงบุคคลในครอบครัว ที่มีอยู่กว่า 4.7 ล้านคนทั่วประเทศ และนำระบบยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) มาช่วยในการยืนยันตัวตนให้กับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วและแม่นยำ
ธนาคารได้พัฒนาระบบการชำระเงิน ที่เชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบเบิกจ่ายตรงของโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ให้ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการประเภทผู้ป่วยนอกได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการใช้สิทธิ จากเดิมที่ใช้บัตรประชาชนอย่างเดียวในการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงผ่านช่องทางเครื่อง EDC และสามารถชำระเงินค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินสิทธิได้ทันที โดยสามารถเลือกจ่ายได้ทั้ง Krungthai NEXT หรือสแกน QR Payment ผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคาร และมีแผนจะขยายช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้การใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วกับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว ช่วยลดขั้นตอนและลดความแออัดให้กับโรงพยาบาล และเป็นการยกระดับการให้บริการด้านสวัสดิการและรักษาพยาบาลให้แก่ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวในการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการให้กับกรมบัญชีกลาง อีกทั้งยังมีบริการแจ้งเตือนให้ทำการยืนยันการใช้สิทธิ และชำระเงินส่วนเกินสิทธิทันทีหลังเข้ารับบริการ พร้อมอำนวยความสะดวกผู้ใช้สิทธิด้วยบริการแจ้งเตือนรายการนัดหมายในครั้งถัดไป และสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลย้อนหลังได้ที่เมนูประวัติการทำรายการย้อนหลังผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง
โครงการเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ผ่านกระเป๋าสุขภาพนี้ ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกรมการแพทย์ สังกัดกระทรวงกลาโหม สังกัดกรุงเทพมหานคร และสังกัดกระทรวงอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมโครงการ ร่วมกันยกระดับการบริการด้านสาธารณสุขให้กับข้าราชการของประเทศ กรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมโครงการ ในการให้บริการผู้มีสิทธิในระบบเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยในระยะเริ่มต้น มี 6 โรงพยาบาลนำร่องที่พร้อมให้บริการ ได้ในปี 2565 ได้แก่
- คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
- สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
- โรงพยาบาลสระบุรี
- โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
6.โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ภายในต้นปี 2566 มีแผนเปิดให้บริการกับอีก 15 โรงพยาบาล ได้แก่
- โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
- โรงพยาบาลบางคล้า
- โรงพยาบาลปากช่องนานา
- โรงพยาบาลพนมสารคาม
- โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
- โรงพยาบาลพุทธโสธร
- โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
- โรงพยาบาลราชวิถี
- โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
- โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
- โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
- โรงพยาบาลสมุทรปราการ
- ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- สถาบันโรคทรวงอก
- สถาบันประสาทวิทยา และเตรียมพร้อมขยายการเชื่อมต่อระบบครอบคลุมโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้สามารถดูรายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.cgd.co.th หัวข้อ รักษาพยาบาล/ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนต่อยอดความร่วมมือ ที่จะเชื่อมการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ สำหรับบริการ Telehealth ให้ผู้ป่วยที่รักษาทางไกล สามารถใช้สิทธิสวัสดิการข้าราชการได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่ายและทำเรื่องเบิกย้อนหลัง ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยมีความพร้อมและยินดีให้การสนับสนุนการพัฒนายกระดับการบริการในทุกด้านเพื่อให้ข้าราชการและประชาชนคนไทย สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม