ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวขอโทษกับประชาชน ต่อกระแสวิจารณ์อย่างร้อนแรงถึงการปฏิบัติการที่ไม่เหมาะสม และดูรุนแรงเกินไป ภายหลังปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปรามบุกเข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ว่า การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาขอโทษ อดีตพระพุทธอิสระ สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีเป้าหมายทางการเมือง คือ ต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จึงกลัวเสียมวลชน และกลัวกองหนุนหายหมด เพราะขณะนี้ คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังตกต่ำอย่างหนัก เช่น ผลสำรวจความคิดเห็นในแฟนเพจที่ทำขึ้นเพื่อเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ แท้ๆ กลับมีคนถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ตอบว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกแล้ว
“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม พล.อ.ประยุทธ์ เลยต้องลงทุนขอโทษอดีตพระพุทธอิสระ และตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง ๆ ที่ เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายยอมรับเองว่าได้ปลอมแปลงรอยตราพระปรมาภิไธยจริง ในการจัดสร้างพระรุ่น “หนึ่งในปฐพี” และที่สำคัญ ใครๆ ก็รู้ว่า การจับกุมบุคคลอย่างอดีตพระพุทธอิสระ ซึ่งเคยมีประสบการณ์เป็นหัวหน้ากองกำลังการ์ดที่มีอาวุธครบมือ ซึ่งเคยซ้อมแม้แต่เจ้าหน้าที่จนสะบักสะบอมมากก่อน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวอดีตพระพุทธอิสระด้วยวิธีการละมุนละม่อม”
นอกจากนี้ ปกติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อประเด็นการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนเท่าใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นกลุ่มคนที่คิดต่าง ก็เห็น พล.อ.ประยุทธ์ มักจะให้ท้ายเจ้าหน้าที่อยู่เสมอว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างโน้นอย่างนี้ ชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิบัติต่อประชาชนแบบสองมาตรฐาน ที่สำคัญ ท่าทีต่ออดีตพระพุทธอิสระในครั้งนี้ ยังสะท้อนให้เห็นความเชื่อมโยงของ พล.อ.ประยุทธ์ กับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.ในการโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในอดีต โดยทำให้ชาวบ้านเข้าใจเหตุการณ์ย้อนหลังว่าทำไม ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก จึงไม่ออกแรงอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายในขณะนั้น แต่กลับวางเฉยจนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ปูทางไปถึงการยึดอำนาจให้ตัวเองก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ในเวลาต่อมา
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ สมควรถูกบันทึกไว้ในตำราเรียน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษามูลเหตุจูงใจในการปฏิวัติรัฐประหารและเพื่อป้องกันคนรุ่นหลังเข้าใจผิดว่าสาเหตุที่ คสช.ปฎิวัติ คือ เพื่อเข้ามาสร้างความสงบเพียงอย่างเดียว อย่างที่บิดเบือนกันอยู่ในหนังสือเรียนปัจจุบัน วันใดที่มีการเลือกตั้ง ก็อยากเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งลงมือแก้ไขประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง อย่าปล่อยให้ผู้มีอำนาจเขียนประวัติศาสตร์ในลักษณะบิดเบือนอีกต่อไป
การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาขอโทษ อดีตพระพุทธอิสระ สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีเป้าหมายทางการเมือง คือ…
โพสต์โดย หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2018
