ที่ห้องอาหาร Anna & Charlie ถนนพระราม 3 กทม. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการครบรอบ 4 ปีของ คสช.ว่า อย่ามองเฉพาะแค่ 4 ปีของ คสช. แต่หลัง คสช.ไปแล้ว ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างหรือสภาพแวดล้อมยังเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น คสช.หรือไม่ก็ตาม อย่าไปต่อว่า คสช.ขอให้หันกลับไปดูอดีตตั้งแต่ปี 2475 จนถึงวันนี้ 86 ปีแล้ว บ้านเมืองก็เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ ทหารปฏิวัติและก็ร่างรัฐธรรมนูญ เกิดการเลือกตั้ง และทหารก็ปฏิวัติใหม่ ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ ส่วนต่างประเทศมีเพียง 1-2 ฉบับเท่านั้น ประเทศใช้หลักการไม่ใช้รัฐธรรมนูญในการบริหารประเทศ
พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวต่อว่า อย่าบอกว่า คสช.จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งความจริงไม่ใช่ต้องไปถามตัวท่านเอง ให้ไปศึกษาสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2475 ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาที่สำคัญที่สุด ทุกคนต้องเข้าใจ อย่าไปโทษคนโน้นคนนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีอะไรกับ คสช. เพราะตนไม่เคยพูดคุยกับ คสช.เลย แต่สิ่งที่พูดเนื่องจากความเป็นจริงก็คือความจริง เพราะว่าคนไทยไม่รู้ว่าการปกครองทุกรูปแบบ ทั้งระบบประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ สังคมนิยม ซึ่งความมุ่งหมายทุกการปกครองมุ่งสู่ประชาชนสำคัญที่สุด
พล.อ.ชวลิต บอกอีกว่า ทั้งนี้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยจะต้องมุ่งสู่ประชาชนจริงๆ แต่การออกรัฐธรรมนูญ ส.ส.สว.หรือไพรมารี่โหวตทำให้เกิดความวุ่นวายไปหมดไม่พอใจ ก็ฉีกเอาใหม่ ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ส่วนการเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแมปของคสช.คือ ปี 2562 หรือไม่นั้น ตนไม่ใช่หมอดู แต่ดูแล้วก็เป็นไปตามวัฏจักร ทุกคำตอบต้องไปดูในอดีต อดีตคือคำตอบในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในอดีตเกิดความรุนแรงหลายรูปแบบ การรัฐประหารก็เกิดหลายรูปแบบ จากประชาชนนักศึกษา ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้โดยเฉพาะเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นวงจร
เมื่อถามถึง การตั้งพรรค คสช. สืบทอดอำนาจจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า หาก คสช.ไปไม่ได้หรือไม่มีทางแก้ ทุกอย่างมีแต่ลง เหตุการณ์เหมือนในอดีตจะกลับมาอีก จะให้เทวดาที่ไหนก็ทำไม่ได้ วันนี้ก็ไม่ได้ต่างจากในอดีต แต่มีส่วนที่แตกต่างกันก็คือจะเกิดความรุนแรงกว่า เนื่องจากคนมีความรู้มากขึ้นเงินมากขึ้น ซึ่งความรุนแรงจะมากขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อถามว่า มองปรากฎการณ์ดูด ส.ส.อย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องความพยายาม และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้นไปห้ามคงไม่ได้ ซึ่งในอดีตก็มี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหรือแม้แต่เหตุการณ์ใหญ่จะเกิดก็ต้องเกิด เนื่องจากในอดีตก็เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง ขณะนั้นนายกฯไปไหน อยู่ต่างประเทศ ก็เป็นแบบนี้ ทั้งนี้ การดูด ส.ส. ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา
พล.อ.ชวลิต กล่าวยอมรับว่า “ผมสงสารคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ร่างแล้วร่างอีก ไม่พอเสียที” โดยกล่าวต่อไปว่า ห่วงประเทศชาติและประชาชน นอนไม่หลับ ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเคยใช้หลักโซ่ข้อกลาง พยายามดึงซ้าย ดึงขวา มารวมกันเพื่อสร้างสันติ แต่มาเปลี่ยนเป็นกองกำลังที่ 3 ซึ่งตนมีกองกำลังอยู่ระวังให้ดี และกองกำลังของตนคือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับแดงเหลือง ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ยุ่งเกี่ยวอย่างเดียวคือประชาชนเพราะเป็นหัวใจสำคัญ
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีใครมาดูดหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาดูด เพราะเขารู้ว่าดูดยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยกล่าวย้ำอีกว่า “ลุงตู่ ไม่มาดูดพ่อใหญ่หรอก แต่เกือบทุกพรรคการเมืองมาชวน แต่บอกไปว่า อย่าเอาพ่อใหญ่ไปเลย เดินก็ไม่ค่อยได้ หูไม่ดี ตามองไม่ชัดความจำก็เลว จะเอาไปทำไม เขาก็ไม่เอาเอง”
เมื่อถามว่า สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่คาดว่าอาจจะเกิดก่อนและหลังเลือกตั้งหรือไม่ พลเอกชวลิตกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติแก้ไขปัญหาไม่ได้ เนื่องจาก แก้ไขปัญหาไม่ได้ รัฐบาลแห่งชาติ คือนำนักการเมืองจากพรรคต่างๆ มารวมกัน ซึ่งก็จะเหมือนเดิมเหมือนที่เกิดขึ้นมา เนื่องจากนักการเมืองทะเลาะกัน และทหารจะออกมายึดอำนาจอีก แต่สิ่งที่จะต้องเกิดคือรัฐบาลเฉพาะกาล มีหน้าที่แก้ไขปัญหาเฉพาะเรื่อง ใช้เวลา 5,6 หรือ 8 เดือน ก่อนจะกลับมาสู่การเลือกตั้งปกติ
เมื่อถามว่า สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ใช่หมอดู แต่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ พยายามทำเพื่อประชาชน แต่ยังไม่ตรงหัวใจ
พล.อ.ชวลิต ได้เปิดเผยด้วยว่า ตนเองได้มีการพูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยบอกให้ทำเพื่อประชาชน ก็อาจจะเป็นหนทางให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ แต่จะได้กลับหรือไม่ ส่วนตัวไม่สามารถทำนายได้ล่วงหน้า แต่ฟังจากน้ำเสียงก็ทราบดีว่า นายทักษิณ อยากกลับประเทศไทย พร้อมกับปฏิเสธว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณบ่อยหรือไม่
