
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 3564 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เดินทางไปที่ห้องพักเลขที่ 163/21 ชั้น 3 ตึก 14 เคหะเอื้ออาทรพระเงิน ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมตัวนายปฏิเวธ สุวรรณคีรี วิศวกรเคมี พร้อมของกลางอุปกรณ์ผลิตยาเสพติดประเภทยาอี อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบยาอีที่ผลิตเสร็จแล้วบรรจุอยู่ในถุงจำนวน 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 50 กรัม จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสืบทราบมาว่ามีกลุ่มขบวนการยาเสพติด นำยาอีที่ผลิตเองมาจำหน่ายให้กับนักเที่ยวในสถานบันเทิงในเขตกรุงเทพฯ จึงเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหาจนสามารถจับกุมนายประยูร ถาพินนา 1 ในผู้ต้องหาขณะกำลังนำยาอีมาส่งให้กับลูกค้า จากการสอบสวนนายประยูรให้การรับสารภาพว่ารับยาอีดังกล่าวมาจากนายปฏิเวธ ที่ห้องพักในเคหะเอื้ออาทรพระเงิน จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายปฏิเวธได้ที่ห้องพัก ตรวจค้นภายในห้องพักพบอุปกรณ์ในการผลิตยาเสพติดประเภทยาอีเป็นจำนวนมาก อาทิสารเคมีตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดหลายชนิด แท่นปั๊มยา ขวดหลอดแก้วในการผสมสารเคมี เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทัล ยาอีที่บรรจุอยู่ในถุงจำนวน 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 50 กรัม

จากการสอบสวนนายปฏิเวธ ยังให้การปฏิเสธพูดจาวกวน แต่ยอมรับว่า เป็นผู้ผลิตยาเสพติดจริง โดยใช้ความรู้จากที่ตัวเองเรียนจบมาทางด้านวิศวกรเคมีนำความรู้มาผลิตยาเสพติดออกขายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนสารเคมีที่ใช้ในการผลิตก็อ้างว่าสั่งซื้อมาทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งทางตำรวจไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาเพราะสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดบางชนิดในประเทศห้ามจำหน่าย ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น หลังจากนี้จะมีการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะลำพังผู้ต้องหาที่จับได้ 2 รายนี้ไม่น่าจะทำกันได้เพียง 2 คนน่าจะเป็นขบวนการใหญ่ เนื่องจากอุปกรณ์ผลิตยาเสพติดที่พบในห้องสามารถผลิตยาเสพติดได้มากถึงวันละ 3,000-5,000 เม็ด



