
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ห้อง 307 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน อายุ 53 ปี อาชีพทนายความ ได้นำพานดอกไม้ ขอเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรี เพื่อกล่าวขอโทษ จากกรณี นำข้อความหมิ่นประมาทไปโพสต์ทาง เฟสบุ๊ค ประชาไท
โดยนางสาวเบญจรัตน์ กล่าวว่า การเดินทางมาพบครั้งนี้ เพื่อขอโทษ ขอขมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ตนได้กล่าวล่วงเกินในกรณีที่เป็นคดีในศาล ขอให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ยกโทษให้โดยให้ขอยอมความที่เป็นคดีในศาล
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การที่ นางสาวเบญจรัตน์ สำนึกผิดว่าได้นำข้อมูลที่ทำให้ตนเสียหาย ตนก็ขอยกโทษ พร้อมให้อภัย และไม่ติดใจเอาความถึงกรณีที่ไปโพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลมีเดียว่าตนกลั่นแกล้ง จนถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี เมื่อสำนึกแล้วตนก็จะมอบหมายให้ทนายความไปแถลงต่อศาล ตามข้อตกลงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ 778/2563 ซึ่งศาลอาญาธนบุรี รับฟ้องเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ฟ้องนางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน เป็นจำเลย ในคดีนี้ได้นัดพร้อมเพื่อฟังผลคดี แต่ทางจำเลยได้ขอเจรจากับ พล.ต.อ.เอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เป็นผู้เสียหาย โดย ศาลไกล่เกลี่ยแล้ว ผู้เสียหาย และจำเลยสามารถตกลงกันได้ โดยจำเลยตกลงจะไปขอขมาผู้เสียหายที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นที่ทำงานของผู้เสียหาย วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. โดยจำเลย จะแจ้งนักข่าวไปทำข่าวด้วย และจำเลยจะลงประกาศขอขมาผู้เสียหาย ผ่านหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ คือ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และหนังสือพิมพ์มติชน
ในการลงประกาศขอขมา จะเป็นการประกาศผ่านหนังสือพิมพ์ทั้งสามฉบับ 6 วัน และผ่านเว็บไซต์ขอหนังสือพิมพ์ทั้งสามฉบับ โดยจำเลยจะเข้าทำพิธีขอขมา “ตามที่ ได้กล่าวข้อความหมิ่นประมาทฯ
ทั้งนี้ นางสาวเบญจรัตน์ คือ ทนายความของ น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก คดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น เมื่อปี 2553



