19 พค.2564 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายเมิน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดพล ที่ 30/2564 ลงวันที่ 28 เมษายน 2564 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน“ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ด้วยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ผู้เสียหายได้เข้าเฟซบุ๊กของกลุ่มรถบ้านแคมป์ปิ้ง โดยสนใจรถกอล์ฟไฟฟ้า จึงได้ทำการติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้ากับผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากการพูดคุยกัน ได้มีการตกลงทำการซื้อขายรถกอล์ฟไฟฟ้าในราคา 35,000 บาท รวมค่าจัดส่ง 6,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 41,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะทำการส่งให้วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ในเวลา 09.00 น.
ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้เสียหายได้โทรศัพท์ติดต่อหาผู้ต้องหาสอบถามเรื่องสินค้า เนื่องจากถึงกำหนดนัดแล้วแต่สินค้ายังมาไม่ถึง โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะโทรติดตามคนขับรถที่นำของไปส่งให้ ต่อมาผู้เสียหายจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถมาติดต่อเอง โดยทราบว่าสินค้าจะมาถึงประมาณ 15.00 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลา 16.00 น. สินค้าก็ยังมาไม่ถึงเช่นเดิม ผู้เสียหายจึงโทรหาคนขับรถอีกครั้ง แต่กลับถูกตัดสาย เมื่อติดต่อไปยังผู้ต้องหา ผู้ต้องหาก็อ้างว่า หากถึงเวลา 20.00 น. สินค้ายังไม่ถึง ผู้ต้องหาจะโอนเงินคืนให้เต็มจำนวน
ซึ่งภายหลังก็ไม่มีสินค้ามาส่งแต่อย่างใด นอกจากนี้ผู้ต้องหายังบล็อกเฟซบุ๊ก จนไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.พล จ.ขอนแก่น
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง มีกลุ่มผู้เสียหายได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยไว้ที่สื่อออนไลน์จำนวนมาก
กองบังคับการปราบปรามเล็งเห็นว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อป้องกันความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง และเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดในรูปแบบเช่นนี้ จึงได้สั่งการให้ กก.2 บก.ป. ดำเนินการเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนของ กก.2 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาหลบอยู่ภายใน ซอยพระยาสุเรนทร์ 21 แยก 3 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ซอยพระยาสุเรนทร์ 21 แยก 3 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พล จ.ขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าตนไม่ได้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย แต่มีนายตั้มฯ (ไม่ทราบชื่อจริง) อายุประมาณ 35-40 ปี ติดต่อตนผ่านทางไลน์กลุ่มว่าหาคนคุมงานรับเหมา ซึ่งตนเองกำลังหางานทำอยู่ โดยนายตั้มฯ ได้แจ้งกับตนว่าต้องเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้สำหรับนำเงินโอนเข้า และต้องมอบสมุดบัญชีเพื่อนำไปทำเอกสารเบิกเงิน และเปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือให้นายตั้มอีกด้วย ซึ่งเมื่อตนดำเนินการเสร็จ ตนจึงได้มอบบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินสด, เบอร์โทรศัพท์มือถือ และรูปถ่ายบัตรประชาชน ให้กับนายตั้ม แต่ต่อมาหลายวันกลับไม่ได้รับการติดต่อกลับ จึงได้ไปที่ธนาคารพบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาเกือบแสนบาท จึงได้อายัดบัญชีไว้ แต่ไม่ทัน มีเงินออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว
กองบังคับการปราบปรามขอเตือนภัยประชาชนให้ทราบว่า พฤติกรรมต่างๆ ของมิจฉาชีพที่นำรูปสินค้า เช่น รถยนต์ รถบรรทุก ที่สภาพดีมาจากอินเตอร์เน็ต มาลงขายใหม่ ในราคาถูกกว่าครึ่ง! เหยื่อส่วนใหญ่หลงเชื่อ เพราะมีบัตรประชาชนชื่อตรงกับชื่อบัญชี ถ้าจะนัดเจอ จะอ้างอยู่ไกลๆ จะพยายามโน้มน้าวให้โอนเงินก่อนเท่านั้น!! พอโอนเงินสำเร็จจะไม่สามารถติดต่อได้ การกระทำดังกล่าวอาจมีผู้เสียหายหลายรายในพื้นที่ถูกหลอกในลักษณะต่างๆ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อจะได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ในพื้นที่เกิดเหตุต่อไป
