หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม‘ธนาธร’ ย้อนให้กลับไปฟังไลฟ์เฟซบุ๊ก วิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ยันไม่กังวลถูกหมายเรียก ม.112

‘ธนาธร’ ย้อนให้กลับไปฟังไลฟ์เฟซบุ๊ก วิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ยันไม่กังวลถูกหมายเรียก ม.112

เผย ผลวัคซีนวันนี้ ยังไม่มีประสิทธิภาพ-ค้างสต็อก 1 ล้านโดส

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2564 ที่ สน.นางเลิ้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญา ม.112 กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กบรรยายหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย” บนเพจคณะก้าวหน้าและเพจนายธนาธร ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลที่มีความล่าช้า และตั้งข้อสังเกตถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า มายังบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์

นายธนาธร กล่าวว่า ตนได้รับหมายเรียกจากการวิจารณ์กลยุทธ์การบริหารจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด-19 แต่ก็ไม่กังวล และยังยืนยันว่า หากกลับไปฟังการอภิปรายจะไม่มีข้อความใดที่ละเมิดข้อหานี้ ส่วนกรณีกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อดิจิตัลและสังคม (ดีอีเอส) ได้ขออนุญาตศาลให้ถอดเฟซบุ๊กไลฟ์นั้น ศาลชั้นต้นตัดสินให้คงคลิปไว้ได้ ส่วนการแจ้งข้อหาวันนี้ ก็อยู่ที่ตำรวจว่าจะพิจารณาอย่างไร ตนมีเจตนาดีต่อสังคม สิ่งที่พูดไว้เมื่อ 2 เดือนก่อนเป็นจริงในตอนนี้ หากพึ่งบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไปก็อาจเป็นความเสี่ยงต่อสังคม

นายธนาธร กล่าวต่อว่า สถานการณ์เกี่ยวกับวัคซีนตอนนี้แบ่งเป็นเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จัดหา และเรื่องการฉีด เรามีวัคซีนค้างสต็อกกว่า 1 ล้านโดสที่ยังไม่ฉีด ฉีดไป 1.5 แสนเข็ม ตั้งแต่ปลายเดือนก่อนถึงตอนนี้ ตกวันละ 5,000 โดส แสดงว่าไม่มีประสิทธิภาพในการฉีด หากจะหมด 1 ล้านโดส ต้องใช้เวลา 200 วัน จึงจะหมดสต็อก หากไม่พูดไม่ตรวจสอบประชาชนคงไม่ทราบ เหตุใดไม่รีบกระจายไป ในเมื่อมีวัคซีนในมือ กระบวนการทั้งหมดมีปัญหา อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดึงสถาบันมาปกปิดความผิดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า การถูกหมายเรียกในวันนี้จึงไม่เหนือความคาดหมาย ไม่มีหลักฐานอะไรต้องนำมาชี้แจง เพราะตนบริสุทธิ์ใจไม่มีประเด็นอะไรที่ก้าวล่วง

นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้มีการใช้กฎหมายที่เลือกปฏิบัติแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน กี่ครั้งแล้วที่มีผู้มาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล กรณีการสลายชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า ที่มีความสงบสันติและมีข้อเรียกร้องชัดเจน ต้องเรียกร้องรัฐบาลว่า หากต้องการให้สังคมอยู่อย่างสงบสุข ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาค

ผบช.น. ติดตามการสอบสวน ‘ธนาธร’ คดี 112 ปมวัคซีน ที่ สน.นางเลิ้ง

ต่อมาเวลา 10.20 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เดินทางมาติดตามการสอบสวนในคดี โดย  พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า  คดีนี้นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาแจ้งความไว้จากกรณีที่นายธนาธร วิจารณ์เรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานมาระยะหนึ่งที่เชื่อว่า มีความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เมื่อถามว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะศาลยกคำร้องแล้ว

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  เมื่อแจ้งข้อหาเสร็จก็จะไม่ควบคุมตัว ไม่ใช่ว่า ตำรวจมีสองมาตรฐาน หรือเลือกปฏิบัติ เพราะทำตามพยานหลักฐาน ใครจะวิจารณ์ก็เป็นสิทธิ์ ส่วนสาเหตุที่ตนต้องเข้ามาติดตามคดีด้วยตัวเองนั้น เนื่องจากเป็นคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากมีคดีความมั่นคง ระดับกองบัญชาการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ตร. แจ้ง 2 ข้อหา ‘ธนาธร’ ไลฟ์เฟซบุ๊ควิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 นัดสอบคำให้การ 7 พ.ค.นี้

เวลา 12.20 น. วันเดียวกัน ที่ สน.นางเลิ้ง นายธนาธร กล่าวภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหาตามกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา การที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อหวังว่าประชาชนชาวไทยจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น มีการเปิดประเทศเร็วขึ้น ผู้ประกอบการจะได้กลับมาทำการค้าอีกครั้ง และการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของตนได้เกิดประโยชน์จริง เพราะหลังจากนั้น รัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนการจัดซื้อ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้รวดเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม

ส่วนเรื่องคดี ได้นัดนำเอกสารหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อสอบคำให้การอีกครั้งในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้

นายธนาธร กล่าวว่า กรณีมีกระแสข่าวว่า ตนคิ้วแตกจากการเล่นเซิร์ฟสเก็ตแล้วลื่นล้มนั้น ขอชี้แจงว่า บาดแผลดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการเล่นสเก็ตแต่มาจากการที่ตนเดินเล่นโทรศัพท์มือถือแล้วเดินชนเสา    

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ส่วนตัวพอใจ เพราะมีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ทั้งหมด 107 คน มีผู้ที่ได้รับตำแหน่ง 16 คน คิดเป็นร้อยละ 15 อย่างไรก็ตาม คณะก้าวหน้า ได้เชิญชวนให้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมงาน โดยจะต้องมีคุณสมบัติไม่ทุจริตคอรัปชั่น ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง และตั้งใจพัฒนาบ้านเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากนี้ ผู้ที่ได้รับการเลือกก็จะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img