หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมนายกฯ ‘ตู่’ สำนึกผิด ขอโทษสื่อ กรณีฉีดสเปรย์ใส่ ลั่น! จะไม่ทำอีก

นายกฯ ‘ตู่’ สำนึกผิด ขอโทษสื่อ กรณีฉีดสเปรย์ใส่ ลั่น! จะไม่ทำอีก

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ภายหลังการประชุม ก.ตร. และ ก.ต.ช. นานกว่า 1 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน เมื่อครั้งที่แล้วที่เป็นกันเองกับพวกเรามากไปนิดนึง ไม่ได้เจตนา และผมคิดว่า ผมทำอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว และครั้งหน้าจะไม่ทำอีกก็ต้องรักษากติกาซึ่งกันและกัน ก็ต้องขอโทษ เรื่องต่อไปเรื่องวัคซีนก็ดราม่ากันไปเรื่อย เขาแถลงมาเข้าใจไหม ก็เดี๋ยวจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตวุ่นวายไปหมด เพราะว่าต้องฟังคณะแพทย์พิจารณา วันนี้ก็ชี้แจงมาแล้วว่า รอสักระยะเวลาหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มาจากต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมคิดว่าบริษัทต้นทางคงต้องชี้แจงของเขาด้วยอยู่แล้ว ก็คงจะใช้เวลาไม่มากนัก ผมเองก็พร้อม เมื่อเช้าก็เตรียมตัวจะไปฉีดอยู่แล้ว แต่เมื่อแจ้งมาก็เลยไปไม่ได้แค่นั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามต้องขอให้กำลังใจคณะแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องการบริหารการฉีดวัคซีน ผมก็เร่งไปแล้วว่าขอให้มีการฉีดวัคซีนให้มากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน เพื่อเพิ่มจำนวนตามวัคซีนที่เรามีอยู่ในโดรสแรก ซึ่งวันนี้มีการฉีดอยู่แล้วประมาณ 30,000 ก็จะเร่งฉีดตามวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน และถ้าสถานการณ์วัคซีนอีกยี่ห้อคลี่คลายก็จะฉีดได้มากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการการขับเคลื่อนประเทศในช่วงนี้โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเรื่องการจองห้องพักโรงแรมต่างๆ ในอนาคตด้วย เมื่อเปิดประเทศจะได้พร้อมและมีภูมิต้านทานภูมิคุ้มกันหมู่  ตอนนี้ก็ฟังด้วยแล้วกัน เวลาแพทย์ชี้แจงเราต้องฟังแพทย์ คณะแพทย์ และไม่ได้ฟังคนเดียวต้องฟังทั้งคณะเห็นชอบร่วมกันและจำเป็นต้องปฏิบัติตามนั้น ขอให้ประชาชนเห็นใจนี่แหละคือสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการจะฉีดหรือไม่ฉีด ก็หวังให้ทุกคนมีความปลอดภัย และคงไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่มีความสำคัญเพียงคนเดียว ประชาชนทุกคนมีความสำคัญต่อครอบครัวของเขา มีความสำคัญเท่าผมเหมือนกัน

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะส่งผลการนำเข้าวัคซีนหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวรอฟังหมอเขา ให้รอฟังแพทย์

ผู้สื่อข่าวถามต่อยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กังวลหรือกลัวที่จะต้องฉีดวัคซีนใช่หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ผมอยู่ทุกวันนี้ ผมกลัวอะไร ต้องกลัวอะไรหรอ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากลัว ทางนายก กังวลใจอะไรหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็พูดของท่านไปงั้นแหละ ผมก็ถามท่านแล้วท่านก็พูดไม่รู้จะตอบอะไรก็พูดไป ถามมาก็ตอบไป ใช่ไหม ผมเองในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ตอบแบบนี้ ใครจะตอบอะไรก็เป็นสิทธิของท่าน วัคซีนยังให้เป็นความสมัครใจเลย ผมก็สมัครใจเลยจะฉีดวัคซีน แต่ขอให้หมอพิจารณามาก่อน วันหน้าพวกเราก็ต้องฉีดกันหมด อย่าทำให้มันดราม่าจนเสียหายหมด

และเมื่อผุ้สื่อข่าวถามถึงการปรับ ครม.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เริ่มทยอยส่งมาแล้ว สัปดาห์หน้าคงเรียบร้อย ได้รายชื่อครบก็ดำเนินการตามขั้นตอนของธุรการ ทุกคนไม่ว่าใครจะเข้ามาก็ต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล และการทำหน้าที่ในฐานะเป็น ครม. ทุกอย่างมีนโยบาย มียุทธศาสตร์ แผนแม่บท ในทุกกระทรวงฯ อยู่แล้ว ทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ที่เป็นปัญหาอุปสรรค และที่เป็นอนาคต  ทุกคนที่เข้ามาต้องมีวิสัยทัศน์การทำงาน  จะเห็นว่าหลายๆ เรื่องก็มีผลสัมฤทธิ์ออกมา หลายเรื่องด้วยกันก็เร่งให้มีการประชาสัมพันธ์ในสิ่งที่เป็นผลสำเร็จออกมาให้มากขึ้น  มากกว่าที่จะมาชี้แจงเป็นเคสๆ ไป ทุกอย่างที่ทำต้องมีผลในปัจจุบันและในอนาคต วันหน้าต้องพัฒนาไปอีก เพราะวิสัยทัศน์ของผมคือความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ถ้าตราบใดที่ยังไปไม่ถึงทั้ง 3 อย่าง ก็ต้องทำตรงนี้ต่อไป จึงจะต้องบูรณาการกันให้เกิดผลงานร่วมกันของหลายกระทรวง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการประชุม ก.ตร. ก.ต.ช. วันนี้ เป็นการประชุมตามวาระปกติ แล้วมีเรื่องเรียนให้ทราบในผลการประชุมในรอบที่ผ่านมา รับรองผลการประชุม และมีเรื่องที่จะต้องพิจารณาที่จะทำอย่างไรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการทำงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และเรื่องการทำหน้าที่ของตำรวจว่าจะทำอย่างไรในกลุ่มงานนี้ให้สามารถดำเนินไปตามยุทธศาสตร์ชาติได้ เป็นการหาแนวทางในการปรับองค์กร ปรับบุคลากร คงไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ก็ต้องขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน

หลังการแถลงเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวถามกลับไปถึงประเด็นดราม่า หลังมีข่าวออกไปทั่วโลก ทางนายกรัฐมนตรีจะต้องระมัดระวังหรือสำรวมการแสดงออกท่าทีต่างๆ เรื่องภาพลักษณ์หรือไม่ เช่น เรื่องการฉีดสเปรย์แอลกอออล์

พล.ต.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอโทษไปแล้ว และถามต่อว่า ก็ใครเอาไปเผยแพร่ ผมล้อเล่นกับท่าน เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็ไม่ล้อเล่นกันอีก จบ.

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img