ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด ผบ.หมู่ สส.สน.พหลโยธิน นำเอกสารร้องเรียนขอความเป็นธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลัง พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง สว.สส.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ต.เอกราช โอมาก สว.สส.สน.พหลโยธิน ใช้อำนาจหน้าที่สั่งการขอหักเงินเบี้ยเลี้ยงจากตำรวจชั้นผู้น้อย 11 นาย เพื่อใช้จัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดตั้งในห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน ว่า เรื่องนี้ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กก็ไม่เล็ก มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่อยากให้ดูที่เจตนา ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นการขอหักเบี้ยเลี้ยงลูกน้องโดยความสมัครใจหรือไม่ แต่ตนไม่ก้าวก่ายเรื่องนี้ ถ้าจะให้ตำหนิก็ตำหนิหัวหน้าหน่วย ต้องไปดูแลเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด สิ่งไหนขาดเหลือก็ต้องดูแล ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดปัญหาลักษณะแบบนี้ เช่น อุปกรณ์ในโรงพักไม่พอก็ต้องเสนอมา เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องไปร้องหน่วยอื่นก็พูดจากันได้ ถ้าไม่พอใจหรือมีปัญหาเดือดร้อนก็ให้เสนอเรื่องขออนุมัติตามขั้นตอน แต่ละพื้นที่ก็มีผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ในลักษณะนี้อาจจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความอึดอัดใจ เป็นเรื่องของนครบาลต้องเข้าไปดูแล ขอให้เป็นอุทาหรณ์ ยืนยันไม่ได้ปกป้องใคร แต่ย้ำว่าให้ดูที่เจตนา อีกอย่างเรื่องนี้อย่าเรียกว่าเรี่ยไรเงิน เพราะบางเรื่องที่เร่งด่วนก็ไม่สามารถรองบปกติได้ ถ้าเกรงว่าปัญหาดังกล่าวจะกลายเป็นความแตกแยกของคนทำงานด้วยกันในโรงพัก ก็เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าไปที่ดูแล