หน้าแรกการเมือง"อานนท์-ไมค์ ระยอง" หวัง 14 ต.ค.ม็อบอยู่ยาวไล่รบ.

“อานนท์-ไมค์ ระยอง” หวัง 14 ต.ค.ม็อบอยู่ยาวไล่รบ.

นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวภายหลังรับรางวัล “จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย” ว่าไม่ได้รู้สึกว่าเป็นรางวัลที่พิเศษ เพียงแต่รู้สึกถึงความสูญเสีย ที่ถูกส่งไม้ต่อให้คนรุ่นปัจจุบันสานต่อ ซึ่งการต่อสู้ไม่ได้ขาดตอน แต่กลับต่อเนื่องกัน โดยเฉพาะข้อเสนอ 10 ข้อ เป็นข้อเสนอที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เรียกร้องกันมาตั้งแต่ในอดีต

ส่วนความคาดหวังของการชุมนุมหลังจากวันที่ 14 ตุลาคมนี้ การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นเป็นการประท้วง กดดัน เรียกร้อง ไม่ใช่เป็นการแสดงพลังและกลับบ้านเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการขยับเพดานการชุมนุมให้รัฐบาลลาออก พร้อมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง พร้อมอธิบายว่าการชุมนุมแบบม้วนเดียวจบ ไม่ใช่แค่วันเดียว แต่เป็นการชุมนุมแบบต่อเนื่อง หากนายกรัฐมนตรีไม่ลาออกจากตำแหน่ง

ส่วนระยะเวลาการชุมนุมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุม หากมีจำนวนนับล้านคน ก็สามารถจบได้ภายในวันเดียว แต่หากเป็นหลักแสนคน แล้วต้องรอคนเข้าร่วมที่มาจากต่างจังหวัด ก็อาจยืดเยื้อหลายวันหลายคืน สำหรับการชุมนุมที่ผ่านมาตนมองว่าเป็นการสะท้อนว่าประชาชนพูดเรื่องเดียวกัน แต่ยังไม่เคยรวบรวมประเด็นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ทุกประเด็นที่เป็นข้อเรียกร้องจะถูกรวบรวมไว้ด้วยกัน

นอกจากนี้ทนายอานนท์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องอีกข้อคือให้รัฐสภาเปิดประชุมสมัยวิสามัญให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจากการประเมินการประชุมที่ผ่านมาพบว่า ส.ส. ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ด้านนายภาณุพงศ์ จาดนอก (ไมค์ ระยอง) แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวภายหลังรับรางวัล “จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย” ว่า ส่วนตัวไม่อยากได้รับรางวัลนี้ เนื่องจากยังไม่ได้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชน แต่รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวแล้วมีคนเห็นเป้าหมายของการชุมนุม ซึ่งการเรียกร้องประชาธิปไตยไม่ใช่ภาระหน้าที่ของใคร แต่เป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน ความจริงไม่จำเป็นต้องมีการเรียกร้องหากในอดีตเคยมีการเปลี่ยนแปลงแล้วและประชาธิปไตยยังคงอยู่

พร้อมกันนี้ นายภาณุพงศ์ ยังมองว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เป็นการเรียนรู้เหตุการณ์ในอดีตเพื่อมาปรับใช้กับปัจจุบัน และหวังว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันจะไม่กลับไปซ้ำรอยอดีตอีก ส่วนความคาดหวังถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ส่วนตัวหวังว่าจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก หากไม่ลาออก ก็จะกลายเป็นเชื้อเพลิงปลุกให้ประชาชนออกมาขับไล่ เพราะตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีผลงานให้เห็น และไม่มีประสิทธิภาพ

ส่วนความคาดหวังของการตอบรับจากรัฐบาลนั้น ตนไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเมินเฉยหรือไม่ แต่ประชาชนออกมาแล้วก็ขอร้องให้รับฟังเสียงของประชาชนด้วย หากตกลงเจรจากันได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะทำให้เกิดความสงบ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img