ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมาธิการหลังรับหลักการในวาระที่ 1 คนนอก คณะรัฐมนตรี รวมไปถึงร่างของไอลอว์ที่ไอลอว์เองไม่สามารถเข้าไปเป็นกรรมาธิการได้ ทำได้เพียงแค่เข้ามาชี้แจงได้เท่านั้น ซึ่งคณะกรรมธิการมีทั้งหมด 45 คน โดยมาจากทั้ง 2 สภา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลส่งซิกแก้ไขรัฐธรรมนูญ มองว่าไม่เป็นการส่งซิกอะไรทั้งนั้น เพียงแต่มีการพูดคุยกันหลายเรื่องเป็นธรรมดา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่าร่างของพรรคร่วมรัฐบาลมีรายชื่อสนับสนุนกว่า 200 รายชื่อ และเมื่อเสนอแล้วไม่สามารถกลับลำได้ ซึ่งทุกพรรคก็เห็นด้วย ส่วนจะทำความเข้าใจกับสมาชิกรัฐสภา ให้รอฟังผลการศึกษาว่าจะออกมาในทิศทางใด หากความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องมาอธิบาย แต่ทั้งหมดจะต้องคุยในชั้นกรรมาธิการก่อนไม่เช่นนั้นจะตั้งมาหาอะไร
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงปัญหาในโรงเรียนขณะนี้ ว่า วานนี้นายกสมาคมครูผู้ปกครองได้เข้าพบ ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันสิ่งที่เราเคยทำได้ มันไม่แน่ว่าเราจะทำได้ต่อไป สิ่งใดที่เคยเป็นจารีตประเพณี วันนี้ต้องระมัดระวังอย่าให้เกินเลยในหลายเรื่อง ไม่ใช่เพียงเรื่องครู นักเรียนในโรงเรียนสารสาสน์ ยังมีเรื่องพ่อแม่ตีลูก สามีภรรยาทำร้ายร่างกาย รุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้อง ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา นายจ้างลูกจ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เคยทำได้ในอดีตแต่สมควรแก่เหตุ ไม่เกินเลย แต่ในวันนี้ทำกันเกินสมควรกว่าเหตุ ก็จะเห็นเรื่องเกิดขึ้นมากมาย วันนี้เราอยู่สังคมอีกแบบนึง
โดยนายวิษณุ ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่มีเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียนชื่อดัง จะได้มีการป้องกันระมัดระวังในทุกเรื่อง เพราะยุคนี้ความคิดคนเปลี่ยน และไม่ผิดที่เปลี่ยน จิตสำนึกเรื่องนิติธรรม ธรรมมาภิบาลเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามจะนำไปสู่การปฏิรูปทุกเรื่องไม่ใช่เพียงเรื่องการศึกษา แต่จะนำไปสู่การปฏิรูปสังคม ความรู้สึกนึกคิด
ทั้งนี้นายวิษณุ ขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการที่เข้าไปเป็นตัวกลางจัดการนี้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง