วันที่ 24 ก.ย.63 เวลา 10.30 น. ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ตม.3.,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จ.สระแก้ว พร้อมชุดสืบสวน ตม.จ.สระแก้ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.3 บูรณาการร่วมกับกรมทหารพรานที่ 12

โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ย.63 เวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าจะมีแรงงานชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้ามายังราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงทำการวางแผนเข้าจับกุม บ้านเนินสมบูรณ์ ม.12 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จนถึงเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบแรงงานชาวกัมพูชา รวม 11 ราย เป็นชาย 5 ราย,หญิง 6 ราย โดยทั้งหมดรับว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาดังกล่าวข้างต้น รับว่าตนกับพวกลักลอบเดินทางเข้ามาทางช่องทางทางธรรมชาติ จากชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเนินสมบูรณ์ ม.12 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อจะเข้าไปทำงานในจังหวัดกรุงเทพมหานคร (2 ราย),จังหวัดสระบุรี (3 ราย),จังหวัดนครปฐม (1 ราย) และจังหวัดฉะเชิงเทรา (5 ราย) โดยก่อนถูกจับกุม แรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ได้พากันมารอขึ้นรถที่บริเวณที่ถูกจับกุมดังกล่าว สอบถามชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมให้การว่า เสียเงินจ่ายค่านายหน้าเพื่อลักลอบเข้ามาทำงานฯ คนละ 3,500–4,000 บาท

ต่อมาได้ขยายผลจนทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองอีกกลุ่มหนึ่งลักลอบเข้ามาในพื้นที่โดยใช้รถยนต์ตู้เป็นยานพาหนะจึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบวางแผนร่วมกันตั้งจุดสกัด เพื่อตรวจสอบบริเวณด่านตรวจหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบรถยนต์ TOYOTA สีขาว ตรงตามที่มีการสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจสอบ พบ นายมานะฯ อายุ 31 ปี สัญชาติ ไทย เจ้าของรถ และนายพรมาลีฯ อายุ 49 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ มีชาวกัมพูชานั่งมาในรถยนต์คันดังกล่าวจำนวน 11 ราย โดยคนไทยทั้งสองคนรับว่าได้รับค่าจ้างในการขนแรงงานกัมพูชาครั้งละ 5,000 ต่อเที่ยว เพื่อนำไปส่งบริเวณห้างสรรพสินค้า ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยได้รับการว่าจ้างจาก นายทูน (ไม่ทราบชื่อ–นามสกุลจริง) ให้มารับแรงงานชาวกัมพูชา รวม 11 ราย ซึ่งนั่งมาในรถยนต์โดยสารคันดังกล่าว เมื่อขอตรวจสอบคนกัมพูชาทั้งหมดรับว่าพวกตนเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อจะเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้ควบคุมผู้ถูกจับนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

โดยดำเนินคดีผู้ต้องหาสัญชาติไทย (คนนำพา) ในข้อหา “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุมและมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน”
ดำเนินคดีผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชาในข้อหา “เป็นคนต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน”
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

