พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการต่อขยายพ .ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 เพราะขณะนี้ทุกคนทราบดีว่า การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเพราะกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขไม่เพียงพอ ที่จะบูรณาการหน่วยงานทุกส่วนให้ปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกัน พร้อมยืนยันไม่ใช้เพื่อเรื่องอื่นๆตามที่คนเขาออกมาพูดกัน
ส่วนการเคลื่อนไหวของประชาชนปลดแอกในวันที่ 24 ก.ย.นี้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเรื่องของการชุมนุม และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยสั่งการอะไร เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ แต่ตนเองก็ไม่อยากให้มีความขัดแย้งต่อเนื่อง และตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความอดทน อดกลั้น ขณะเดียวกัน ต้องขอบคุณผู้ปกครองที่ช่วยกันดูแลลูกหลาน ซึ่งหลายอย่างปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว และอยู่ที่สังคมจะตัดสิน วันนี้ต้องสร้างการเรียนรู้ให้มากขึ้น มีหลักคิดหลักการและเหตุผล ว่าการกระทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม เพราะจะทำให้ประเทศชาติและประชาชน เสียโอกาสไปด้วย และอยากบอกทุกคนว่าไม่มีใครแพ้ชนะ แต่สิ่งที่จะตามมาคือประเทศชาติเสียหาย ซึ่งเป็นกังวลในจุดนั้นมากกว่า
นายกฯ หวังให้ยกครอบครัวไปเที่ยวหยุดยาว พย.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาให้มีวันหยุดในเดือน พ.ย. เนื่องจากเดือนต.ค. คงไม่ได้แล้ว เพราะมีวันหยุดหลายวันแล้ว ทั้งนี้ ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะเป็นวันไหน อย่างไรบ้าง เพื่อได้มีการเตรียมการในเรื่องของการท่องเที่ยว อีกทัเงในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียนด้วย จึงหวังว่าจะได้ไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว
ทั้งนี้ ในส่วนของการบริการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐต่างๆ แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม ก็ต้องมีเวรยาม มีคนที่จะให้บริการประชาชนเป็นปกติ ซึ่งตนได้สั่งการในครม.ไปแล้ว
นายกฯยันประสานอินเตอร์โพลจับ”บอส” ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบอส อยู่วิทยา ว่า วานนี้ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าไปแล้ว ขณะนี้ตำรวจไทยประสานไปยังตำรวจสากล เพื่อประสานติดตามตัวบุคคลเหล่านั้นกลับมาได้หรือไม่ หากพบตัวก็จะดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามกลับมายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป โดยตนเองได้กำชับไปยังหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว และขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดีจาก ป.ป.ท.
ส่วนมาตรการคนละครึ่งและการเพิ่มเบี้ยยังชีพนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้มีการอนุมัติโครงการดังกล่าวแล้ว เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เกิดการบริโภคเพิ่มกำลังซื้อ และลดค่าครองชีพ เมื่อมีการจับจ่ายใช้สอย พ่อค้าแม่ค้าจะสามารถนำไปต่อยอด โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าขายปลีก โดยเน้นย้ำว่าทุกคนจะต้องเข้าถึง E – wallet และคิวอาร์โค้ด เพื่อที่จะได้รับเงินจากงบประมาณโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ทั้ง 2 โครงการไม่ใช่การสนับสนุน ผู้มีรายได้ สูงแต่ประการใด
และยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้ ครม. ได้มีการอนุมัติวันหยุดเพิ่ม ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว แต่แม้จะเป็นวันหยุดจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยปฏิบัติหน้าที่ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ตามปกติ ส่วนการขอเสนอให้หยุดในเดือนต.ค.ไม่จำเป็นเพราะมีวันหยุดยาวอยู่แล้ว
นายกฯ เมิน “บิ๊กโจ๊ก” ส่งทนายส่วนตัวฟ้องออกคำสั่งโอนย้าย ย้ำยึดกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมาย นายสิทธิ งามลำยวง ทนายส่วนตัว ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลาง กรณีออกคำสั่งย้ายโอน มิชอบด้วยกฏหมาย ไม่มีความผิด แต่ไม่ย้ายกลับต้นสังกัด ว่า ก็ว่ากันไป เป็นเรื่องของกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าได้มีการตรวจสอบแล้วหรือยัง ว่ามีความผิดอะไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ตรวจสอบแล้วถึงทำแบบนี้ ซึ่งย้ำว่า ให้ฝ่ายกฎหมายดูและเป็นผู้อธิบายในเรื่องนี้

