ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย มีนวัตกรรมทางการเงินที่เป็นกลไกสำคัญ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพร้อมเพย์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้5.5ล้านไอดี การให้บริการ QR Code payment ซึ่งต่อยอดจากพร้อมเพย์มีผู้ลงทะเบียน 6 ล้านไอดีช่วยทำให้ธุรกรรมของผู้ประกอบธุรกิจทำได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้นเป็นการขยายโอกาสทางการค้าในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีแผนที่จะเดินหน้าในเรื่องของการพัฒนา เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อธุรกรรมทางการเงินให้มากขึ้นด้วย โดยการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินไปสู่ภาคธุรกิจ ด้วยมาตรฐาน ISO 20022 ซึ่งจะมีรายละเอียดของการทำธุรกรรมและมาตรฐานข้อมูลที่มากขึ้น โดยจะเห็นผลในวงกว้างภายในระยะเวลา 1.5 ปีนับจากนี้ การมีข้อมูลรายธุรกรรมเชิงลึก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในการให้บริการ ตามรอยเท้าดิจิทัลได้ การใช้ดิจิทัลไอดีในการยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพ การต่อยอดโครงการอินทนนท์ไปสู่ภาคธุรกิจ รวมถึงการออกดิจิทัล Personal Loanให้กับประชาชน เพื่อเข้าถึงผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นทางการมากขึ้น