สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สามารถเพาะปลูกชาในระดับอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากไร่ชาภาคเหนือมีจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่กรมฯได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้าชา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชาร่วมแสดงสินค้าในงานไทยเฟกซ์ อุตสาหกรรมชาไทยเริ่มมีการสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นในลักษณะ OEM ซึ่งจะเน้นผลิตเพื่อส่งขายเป็นวัตถุดิบหรือเป็นชาสำเร็จรูป ถือเป็นโอกาสดีในการขยายตัวของอุตสาหกรรมชาไทย ผ่านการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าชาโดยการผลิตชาอินทรีย์ ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศนิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ไทยส่งออกชาเขียว 492,999 กิโลกรัม มูลค่า 4,663,670 เหรียญสหรัฐ การส่งออกชาดำ 601,818 กิโลกรัม มูลค่า 2,810,489 เหรียญสหรัฐ และส่งออกชาสำเร็จรูป 4,971,111 กิโลกรัม มูลค่า 19,605,063 เหรียญสหรัฐ

