หน้าแรกการเมืองนายกฯลงพื้นที่สุโขทัยพบปะประชาชน

นายกฯลงพื้นที่สุโขทัยพบปะประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ. สุโขทัย โดยเครื่องบินบ.ท.135 แอมแบร์

โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยว่า การที่นายกรัฐมนตรี มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังประชาชนในครั้งนี้ อยากจะขอร้องนายกฯว่า พื้นที่สุโขทัยเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากแล้งซ้ำซาก เมื่อถึงฤดูฝนจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.พะเยา และ แพร่ ทำให้คันดินและผนังถนนพัง ซึ่งเกิดความเสียหาย โดยได้สำรวจความต้องการจากชาวบ้านและท้องถิ่น ซึ่งต้องการโครงการก่อสร้างเขื่อนเรียงหินเพื่อป้องกันตลิ่ง โดยประมาณการงบประมาณ 470 ล้านบาท

จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปยังวัดคลองกระจง ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ด้วยรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ดสีขาวทะเบียน กต 5995 สุโขทัย เพื่อไปสักการะพระประธานหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดคลองกระจง (พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา) ที่อุโบสถ พร้อมพบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบถุงยังชีพที่ศาลาอเนกประสงค์ ก่อนพบปะและให้กำลังใจอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เข้าสักการะพระประธานหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดคลองกระจง (พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา) ที่ อุโบสถ พร้อมกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ถ้าเราไม่สามารถเดินหน้าได้วยกัน พูดคุยกัน หาแนวปฏิบัติที่อะลุ่มอล่วยกันบ้าง มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด วันนี้ตนเห็นมีการเรียกร้องข้างถนน ตนก็รับไปหาทางแก้ปัญหา ไม่ได้รังเกียจรังงอนใคร เพราะทุกคนคือคนไทย ตนก็เป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ และไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม อยู่บนประเทศไทยต้องรักประเทศไทย

“รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหลักชัยของแผ่นดิน ถ้าเราไม่มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้หลงเหลือ เราจะเป็นประเทศที่หมดศักยภาพโดยทันที นี่คือสิ่งที่ต่างชาติยอมรับเรา เพราะฉะนั้น บ้านเมืองต้องสงบ จะได้ทำอย่างอื่นได้ ถ้าไม่สงบทำอะไรไม่ได้ จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย วันนี้รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะผมเป็นคนไทยอย่างท่าน ต้องการทำทุกอย่างให้ได้ เวลาก็จำกัด”

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งระหว่างที่นายกรัฐมนตรี กำลังพูดกับประชาชน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นคน จ.สุโขทัย ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำเตือนว่ารัฐบาลได้อนุมัติอะไรเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมสุโขทัยไปแล้วบ้าง โดยพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “นี่มาเตือนว่านายกรัฐมนตรี ให้อะไรไปแล้วบ้าง 2,800 กว่าล้าน แบ่งน้ำจากเส้นหลักไป อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์” ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ก็จำรายละเอียดโครงการไม่ค่อยได้ ทางนายสมศักดิ์ ก็พยายามให้ข้อมูล กระทั่งนายกรัฐมนตรี บอกนายสมศักดิ์ ให้พูดดังๆ กับชาวบ้าน ก่อนที่ จะเรียกนายสมศักดิ์ มาพูดที่ไมค์โครโฟน ซึ่งนายกฯ ยืนพูดอยู่ “มาสิ วันหน้าจะได้เป็นนายกฯ ไง มานี่”

จากนั้น เมื่อนายสมศักดิ์ ได้อธิบายรายละเอียดโครงการที่รัฐบาลนี้ได้อนุมัติงบช่วยแก้น้ำท่วมสุโขทัยกับชาวบ้านเสร็จ นายกรัฐมนตรีได้แซวนายสมศักดิ์ ว่า “ตอนนี้ยังเป็นนายกฯ ไม่ได้ เพราะผมเป็นอยู่” พร้อมกับหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ทุกคนเป็นได้หมด วันหน้าเด็กรุ่นใหม่ ก็ขึ้นมาเข้าสู่การเมืองทำเพื่อตัวเองกันต่อไป ผมก็ส่งต่อให้พวกท่านอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณที่ต้อนรับอย่างยอดเยี่ยม และระบุว่า ไม่ว่าใครจะรัก ไม่รักก็ยิ้มให้เสมอ ตนไม่ใช่ศัตรูของใคร ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะถามชาวบ้านว่า “รักหรือเปล่า” โดยชาวบ้านตอบว่ารัก ก่อนจะกล่าวแซวว่า ส่วนใหญ่คนที่รักผมมีแต่ผู้หญิงเยอะนะเนี่ย และนายกรัฐมนตรี ยังได้ขอโทษชาวบ้านแทนทุกอย่างที่ยังไม่เรียบร้อย

ทั้งนี้ที่ บริเวณทางเข้าท่าอากาศยานสุโขทัย ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยปรากฏว่า ได้มีประชาชนใช้ชื่อกลุ่ม ย่านยาวยั่งยืน จำนวน 20 คน นำโดยนายบรรจบ อยู่รวม มาปักหลักดักรอคณะของนายกฯ เพื่อชูป้ายผ้าและแสดงสัญลักษณ์ ถึงการได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างสนามบินสุโขทัย ที่ส่งผลกระทบทำให้กลุ่มผู้ประกอบอาชีพทำนา เนื่องจากพื้นที่เดิมของสนามบินสุโขทัยเคยเป็นหนองน้ำ เมื่อมีการปลูกสร้างปิดทับทำให้ไม่สามารถใช้น้ำในการอุปโภค บริโภคและทำนาได้ ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือเร่งรัดการจ่ายค่าชดเชยเยียวยา หลังจากกลุ่มผู้เดือดร้อน เคยทำหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวจึงขอให้ช่วยติดตามและสั่งการในเรื่องความเดือดร้อนของกลุ่มด้วย

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมาปักหลักเพื่อต้องการรอให้ขบวนนายกฯ ผ่านมาและมองเห็นการชูป้ายผ้าและแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนที่ขบวนนายกฯและคณะจะเดินทางออกจากสนามบิน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img