โดยนายพิเชษฐ กล่าวว่า การลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจและถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทางกลุ่มพรรคเล็กได้มีการหารือกันในการนำเสนอทางออก เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้สบายใจว่า ควรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมองว่านายกรัฐมนตรีมีความเหมาะสมที่จะควบตำแหน่งดังกล่าวเพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ทราบปัญหาต่างๆ มาเป็นอย่างดี ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็จะทำให้ปัญหากลุ่มต่างๆ ในพรรคการเมืองพยายามผลักดันคนของตัวเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหมดไป
ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแล โดยควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามปกติ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศเกิดสบายใจว่าไทยไม่ได้ขาดตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา
ด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่ากลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ออกมาเพื่อทวงถามโควตารัฐมนตรี เพราะขณะนี้ผ่านพ้นช่วงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว หากนำบุคคลภายนอกจากภาคธุรกิจเข้ามาก็อาจจะหวั่นกลัวไม่กล้าเซ็นเอกสารต่างๆ เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่นายกรัฐมนตรีรู้จักป่าทั้งป่า ก็จะกล้าเซ็นและไม่กังวลกับสิ่งที่เซ็นไปแล้วว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาภายหลัง
ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีความเหมาะสมที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐที่จะพิจารณา แต่ตนเชื่อว่ามีความกล้าในการใช้เงินกู้แน่นอน แต่ก็ต้องดูว่าประชาชนจะยอมรับได้หรือไม่

