29 ส.ค. 2563 กองบังคับการปราบปราม โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก. 5 บก.ป., พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5.บก.ป. ปฏิบัติการโดย พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ศุภเดช ธนชัยศิริ รอง สว.กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายธีรเดช หมัดเหร็ม อายุ 30 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน
- “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาที่ 325/2557 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 (สภ.คอหงส์)
- “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาที่ 384/2557 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2557 (สภ.เมืองสงชลา)
- “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 163/2557 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2557 (สภ.จะนะ)
จับกุมได้ บริเวณริมถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
สำหรับพฤติการณ์ นายธีรเดชฯ (ผู้ต้องหา) ในการออกตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ กระชาก(สร้อยคอทองคำ) ผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งมักจะเลือกเหยื่อที่เป็น หญิงสาว ขับขี่รถมาเพียงลำพัง เนื่องจากไม่สามารถต่อสู้ขัดขืนได้
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 16.00 น. นายธีรเดชฯ (ผู้ต้องหา) ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกตระเวนหาเหยื่อ แล้วได้พบ น.ส.จอยฯ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนรัถการ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไป เมื่อสบโอกาสผู้ต้องหาได้กระชากสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท พร้อมจี้ทองคำหนัก 2 สลึง จากคอของผู้เสียหายไป
ครั้งสองเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 09.40 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก ได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท (พื้นที่ สภ.คอหงส์)
ครั้งที่สามเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 10.50 น. ผู้ต้องหายังก่อเหตุในลักษณะเดินอีกครั้ง ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองหนัก 1 บาท (พื้นที่ สภ.จะนะ) ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับผู้ต้องหา
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขาย และพักอาศัยอยู่ที่บริเวณแขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ จึงเข้าทำการจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้วจำนวนหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดที่สงสัยว่าอาจเคยถูกผู้ต้องหานี้ก่อเหตุกับตนเอง สามารถติดต่อขอข้อมูลได้ที่ กก.5 บก.ป., สภ.คอหงส์, สภ.เมืองสงขลา และ สภ.จะนะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาต่อไป