ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์กลับมติไปสนับสนุนเรือดำน้ำจะเกิดอะไรขึ้นนั้น นายยุทธพงศ์ มองว่า ต้องไปถามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคนที่พูดเรื่องนี้เป็นกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ และบางคนเป็นถึงประธาน ส.ส.ของพรรค เหตุใดจึงจะมากลับมติได้
ส่วนที่มีข่าวว่ากรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลจะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) นายยุทธพงศ์ ย้ำว่า ขั้นตอนการชี้แจงได้ผ่านไปแล้ว หากจะอ้างว่ายังไม่ชัดเจน เหตุใดปัญหาการตัดงบประกันสังคมเมื่อวานนี้ ( 26 ส.ค. ) กว่า 15,000 ล้านบาท จนต้องถอนเรื่องไป ทำไมไม่เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มด้วย อีกทั้งความพยายามยื้อเวลาครั้งนี้ เชื่อว่าต้องการให้ร่างพ.ร.บ.งบผ่านความเห็นชอบจากสภาโดยอัตโนมัติหรือไม่ เพราะตามกฎหมายมีการกำหนดกรอบเวลาว่า หากพิจารณาไม่เสร็จภายใน 105 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 28 ก.ย. ก็ถือว่า สภาให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณโดยอัตโนมัติ
“ชาดา” ย้ำ เดินหน้าให้ผ่านซื้อเรือดำน้ำแฉ”ยุทธพงศ์”ก็ให้ผ่านเองกับมือ แต่ปีนี้มาค้าน
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวว่า การจะโหวตให้ซื้อเรือดำน้ำมาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องหารือภายในกรรมาธิการ และเพื่อไม่ให้เป็นการฟังความข้างเดียว จำเป็นต้องรับฟังคำชี้แจงของกองทัพเรือ เพื่อ แล้วก่อนหน้านี้ที่มาชี้แจงเป็นเพียงการชี้แจงในภาพรวม ไม่มีรายละเอียดเรื่องเรือดำน้ำ
ทั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมลงมติให้ผ่าน เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่อนุมัติมาตั้งแต่ปี 2563 มีการเริ่มต้นไปแล้ว แต่กองทัพเรือคืนงบประมาณในส่วนนี้ มาใช้แก้ปัญหา covid-19 ก่อน และหากถามในนามพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องพูดคุยกันก่อน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดปี 2563 จึงไม่มีใครคัดค้าน รวมทั้งนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่เป็นอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ซึ่งพิจารณาเรื่องนี้ด้วย มีแค่ตนเพียงคนเดียวที่ออกมา แต่ก็ไม่มีใครฟัง แล้วเมื่ออนุมัติไปแล้ว ปีนี้จะมาคัดค้านได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน นายชาดา ยังกล่าวด้วยว่า อยากให้ใช้เหตุผลในการตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ใช่ค้านเพราะเพียงตนเป็นฝ่ายค้าน และคนที่สนับสนุนก็ต้องมีเหตุผล อย่าสนับสนุนเพราะต้องการเอาหน้า อย่าทำทุกอย่างภายใต้วาระซ่อนเร้น