ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฮีโกสเช่นเดียวกับพายุซินลากูด้วย “โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2563” ด้วย 7 มาตรการนำโดย
1).ลดดอกเบี้ยเหลือ 0% ต่อปีนาน 4 เดือนแรก
2).ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ดอกเบี้ย 3.00% ต่อปีคงที่ 3 ปีแรก
3).ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 4 เดือนดอกเบี้ย 0% ต่อปี 4 เดือนไม่ต้องชำระเงินงวด
4).ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปีดอกเบี้ย 1% ต่อปี
5).เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี
6).ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคารและ
7).พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันภัยจ่ายค่าสินไหมเร่งด่วนและกรณีกรมธรรม์เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 1 พ.ย. 2562 เพิ่มความคุ้มครองตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกินภัยละ 30,000 บาทต่อปีติดต่อขอใช้มาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 ธันวาคม 2563
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าตามที่อิทธิพลของพายุโซนร้อนฮีโกสได้ส่งผลให้หลายจังหวัดของประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากทำให้ที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเสียหายหรือเกิดผลกระทบต่อรายได้หรือการประกอบอาชีพด้วยนั้นนายปริญญาพัฒนภักดีประธานกรรมการธอส. จึงได้มอบนโยบายให้ธอส. ธนาคารบ้านของคนไทยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนผ่าน“โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2563” ภายใต้รายละเอียดและกรอบวงเงินรวมเดียวกันกับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุซินลากูในช่วงก่อนหน้านี้จำนวน 100 ล้านบาทโดยพิจารณาตามระดับความเสียหายซึ่งมีรายละเอียดประกอบด้วย
มาตรการที่ 1).สำหรับลูกค้าเดิมของธอส. กรณีหลักประกัน (ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร) ของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระเดือนที่ 1-4 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปีเดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปีเดือนที่ 17-24 อัตราดอกเบี้ย 4.15% ต่อปีปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปีและปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้กรณีลูกค้าสวัสดิการดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปีกรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไปดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.50% ต่อปีกรณีกู้เพื่อชำระหนี้หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกฯดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. อยู่ที่ 6.150% ต่อปี)
มาตรการที่ 2).สำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมของธอส. ที่หลักประกันของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัยสามารถขอกู้เพิ่มหรือกู้ใหม่เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิมหรือกู้ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 3.00% ต่อปีนาน 3 ปีหลังจากนั้นกรณีลูกค้าสวัสดิการคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปีส่วนลูกค้ารายย่อยคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี
สำหรับลูกค้าผู้ที่ต้องการยื่นกู้ตามมาตรการที่ 2 ธนาคารกำหนดวงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 หลักประกันและยังยกเว้นค่าธรรมเนียมในรายการที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยค่าตรวจสอบหลักประกันค่าประเมินราคาหลักประกันค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการกู้
มาตรการที่ 3).ลูกหนี้ที่หลักประกันได้รับความเสียหายให้ลูกหนี้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 4 เดือนอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปีนาน 4 เดือนแรกโดยไม่ต้องชำระเงินงวดจากนั้นเดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปีโดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 4).ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปีโดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 5).ลูกหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปีตลอดระยะเวลาที่คงเหลือตามสัญญากู้
มาตรการที่ 6).กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคารและให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น
มาตรการที่ 7).พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันภัยอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติรวมถึงกรณีน้ำท่วมหรือลมพายุพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ 15,000 บาทแต่หากมีภาพถ่ายความเสียหายที่ชัดเจนเกินกว่า 15,000 บาทจ่ายตามความเสียหายจริงตามภาพถ่ายรวมทุกภัยธรรมชาติไม่เกิน 20,000 บาทต่อปีและสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงจากหลักฐานภาพถ่ายแต่ ไม่เกินภัยละ 30,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนฮีโกสรวมถึงพายุซินลากูก่อนหน้านี้สามารถติดต่อเข้า“โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2563” ได้ที่สาขาของธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงภายใน วันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทำการสาขาของธอส. ทุกแห่งทั่วประเทศหรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือwww.ghbank.co.thและ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์