โดยนายอนุชา กล่าวว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นโครงการที่มีความสำคัญ และเป็นภารกิจของคณะสงฆ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนโครงการฯ ให้ประสบผลสำเร็จ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นประโยชน์ของประชาชน สังคม และประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการประชาชนได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประยุกต์และปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ส่งผลให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น สังคมมีความสงบร่มเย็น ประชาชนในชาติมีความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์
ในนามของรัฐบาลขอแสดงความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง และกราบขอบพระคุณคณะสงฆ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนโครงการนี้ ซึ่งทุกท่านได้เสียสละ และอุทิศตน ทั้งกำลังกาย กำลังใจ เพื่อขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา นำมาซึ่งการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ขอขอบพระคุณคณะสงฆ์จังหวัดระยอง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และประชาชนจังหวัดระยองที่ได้ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ตามแนวทางที่กำหนดด้วยดีเสมอมา หวังให้โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 ได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เจริญก้าวหน้า และสร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนต่อไป