หน้าแรกการเมือง"พิชัย" ชี้ซื้อเรือดำน้ำส่อทำลายทีมศก.ห่วงรัฐยิ่งกว่าถังแตก

“พิชัย” ชี้ซื้อเรือดำน้ำส่อทำลายทีมศก.ห่วงรัฐยิ่งกว่าถังแตก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า การส่งออกในเดือนกรกฎาคมมีแนวโน้มที่จะติดลบหนัก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 น่าจะยังคงติดลบหนักอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ติดลบหนักถึง 12.2% ซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้า จึงต้องกู้เงินเพิ่มขึ้นอีก เป็นสาเหตุที่มีข่าวบอกว่า รัฐบาลถังแตก ซึ่งก็จริง เพราะรายได้ไม่พอกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมาก แม้รัฐบาลจะพยายามจะปฏิเสธว่า ไม่ได้ถังแตก แต่ความจริงคือสถาวะที่เป็นอยู่นี้จะหนักยิ่งกว่าถังแตกเสียอีก โดยอาจจะถึงขั้นล้มละลายเลย เพราะปัจจุบันรัฐบาลทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นถึง 8.21 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็น 51.64% ของจีดีพี และรัฐบาลจะต้องกู้เงินเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ ในขณะที่จีดีพีจะติดลบ เปรียบเหมือนครอบครัวที่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้กลับลดลงก็คงจะรอวันล้มละลาย โดยรัฐบาลจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มสูงเกิน 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่ประเทศกำลังพัฒนาไม่ควรมีหนี้เกิน เพราะจะทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะที่ประเทศไทยมีสัดส่วนการเก็บภาษีได้เพียง 16-17% ของจีดีพีเท่านั้น การมีหนี้ชนเพดานจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินเพิ่มเพื่อมาพัฒนาประเทศ หรือ ช่วยเหลือประชาชนได้อีก เพราะจะเสี่ยงต่อสถานะการเงินการคลังของประเทศ ดังนั้นปัญหาที่เป็นอยู่จะหนักกว่าการถังแตกมาก โดยหมายถึงอนาคตที่ประเทศจะมีหนี้สาธารณะเกินกำหนด แต่จีดีพีกลับไม่เพิ่มและยังติดลบ
หนักอีก จากความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลมาตลอดหลายปีนี้ และรัฐบาลในอนาคตจะไม่สามารถกู้เงินมาฟื้นเศรษฐกิจได้เพราะหนี้เต็มวงเงินแล้ว

ดังนั้นในภาวะเช่นนี้ รัฐบาลจะต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและต้องจ่ายแล้วจีดีพีจะต้องเพิ่ม ความสุขของประชาชนจะต้องเพิ่ม ไม่จ่ายสะเปะสะปะแบบไม่มีทิศทางเหมือนที่ผ่านมาที่ถึงขนาดต้องเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจยกชุด แต่ถึงกระนั้น ล่าสุด สส. ฝั่งรัฐบาลยังกล้าโหวตที่จะอนุมัติซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ จำนวนเงิน 22,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองและไม่มีเหตุผล ในภาวะเศรษฐกิจที่ประชาชนลำบากกันอย่างมากนี้ รัฐบาลทำเหมือนไม่สนใจและไม่แคร์ต่อความรู้สึกของประชาชนเลย ทั้งๆที่สังคมเพิ่งจะตำหนิการซื้อเครื่องบินสำหรับวีไอพีของกองทัพจำนวนเงิน 1,348.5 ล้านบาท กระแสต่อต้านการซื้อเรือดำน้ำนี้จึงมีอย่างมาก เพราะจะเป็นการใช้เงินอย่างไม่เกิดประโยชน์ รัฐบาลน่าจะนำเงินดังกล่าวมาฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือช่วยประชาชนที่กำลังลำบากมากกว่า

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img