หน้าแรกการเมือง"นายกฯ" เคาะวันนัด ก.ต.ช.แต่งตั้ง ผบ.ตร.แล้ว ลุ้นระทึก 'ปั๊ด+นู +ใหม่' ใครนั่ง "เก้าอี้พิทักษ์ 1" 28 ส.ค.นี้

“นายกฯ” เคาะวันนัด ก.ต.ช.แต่งตั้ง ผบ.ตร.แล้ว ลุ้นระทึก ‘ปั๊ด+นู +ใหม่’ ใครนั่ง “เก้าอี้พิทักษ์ 1” 28 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทย์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)พร้อมด้วย คณะกรรมการ ก.ต.ช.ที่มีนายวิษณุ เครืรองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงทกาดไทย เป็นกรรมการ นายวิศิยฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นกรรมการ กรรมผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 2 ท่านที่ยังไม่มีการ แต่งตั้ง มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กรรมการและเป็นเลขานุการ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ข่วยเลขาฯ คนที่ 1 พล.ต.ท.ปียะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้ช่วยเลขาฯ คนที่ 2 เข้าร่วมประชุม ในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น.ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชุมแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ซึ่งกำลังจะเกษียณในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยสาระสำคัญจะอยู่ที่ ม.18(3) กำหนดไว้ให้ ก.ต.ช.มีอำนาจหน้าที่ พิจารณาดำเนินการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ
โดย ม.18(3) นี้ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 88/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติและ ในประกาศ คสช. ฉบับเดียวกัน ก็แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 53 (1 ) เป็น “ซึ่งมาตรา 53 ระบุใว้ว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44 (1 ) (2) (3) และ (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44 ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วเสนอ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร.

มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแคนดิเดต ที่จะถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.คนที่ 12 นั้น มี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร.(นรต.36)ที่มีอาวุโส ลำดับที่ 5 และได้แรงหนุนจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ส่วนผู้ที่เป็นแคนดิเดต ที่แรงเบียดกัยแบบสูสี คือพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร. (นรต.38) อาวุโส ลำดับที่ 3 ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเต็ง ล่าสุดยังมีชื่อของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. (นรต.36)ที่มีอาวุโส ลำดับที่ 2 เป็นแคนดิเดต มาแรงอีกท่านหนึ่ง รวมถึง พล.ต.อ.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร (จตช.)ที่มีภรรรยาเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และใกล้ชิดกับบิ๊กรัฐบาล ส่วนคนสุดท้าย คือ พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร อยู่ระหว่างถูกสำรองราชการ แต่ตามข้อกฏหมายถือว่ายังไม่พ้นตำแหน่งโดยสมบูรณ์
 
ซึ่ง พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ที่มีอาวุโสลำดับที่ 1 หลุดวงโคจรการลุ้นขึ้นเป็น ผบ.ตร.ไปแล้ว เนื่องจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคำสั่งให้สำรองราชการ ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย เพิ่งกลับเข้าทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในตำแหน่ง รองผบ.ตร. เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน ระหว่างถูกสอบกรณีคลิปเสียงระหว่างตัวเขา กับ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นการสนทนาเกี่ยวกับคดีการลอบยิงรถของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนายกฯ มีคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิมอีกครั้งเมื่อการตรวจสอบปม “คลิปเสียง” สิ้นสุดลง แต่ใน
 
ส่วน รองผบ.ตร. ที่เรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา, (สำรองราชการ) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์, (รอง ผบ ตร.) พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก, (รอง ผบ ตร.) พล.ต.อ.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร (จตช.)และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (รอง ผบ ตร.)

ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ประชุมวาะ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี ระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก. ต่อจากการ ประชุม ก.ต.ช.ซึ่งแต่งตั้งผบ.ตร.เสร็จ

สำหรับวาระประชุม ก.ตร.ที่มีการพิจราณา แต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.วาระปีะจำปี 2563 มีตำแหน่งว่างระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่ง
ชาติ(รองผบ.ตร.) ลงไปถึง ผู้บังคับการ(ผบก.) รอง ผบ.ตร.ว่าง 3 ตำแหน่ง ระดับผู้ช่วยผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง ระดับผู้บัญชาการ(ผบช.) ว่าง 13 ตำแหน่ง ระดับรองผู้บัญชาการ(รอง ผบช.) ว่าง 43 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่ง ดังนั้นในการแต่งตั้ง นายพลวาระประจำปีนี้จะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 142 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มอีกว่า ในส่วนของ ตำแหน่ง ของ พล.ต.อ.วิระชัย นั้น ตำแหน่งจะว่างตามกฏหมายได้ ก็ต่อเมื่อมีการกราบบังคมทูลให้โปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมีรายงานว่าล่าสุดทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหนังสือ นำความกราบบังคมทูลฯ ไปแล้ว แต่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ให้พ้น ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทาง พล.ต.อ.วิระชัย เองก็ได้มีหนังสือ กราบบังคมทูลฯ ถวายฏีกา ขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูก ผบ.ตร.มีคำสั่งสำรองราชการ ไม่เป็นธรรม ด้วยเช่นกัน ซึ่งตำแหน่ง ระดับ รอง ผบ.ตร.อาจ ว่าง 2 หรือ 3 ตำแหน่ง ต้องรอการโปรดเกล้าฯลงมาว่าเป็นอย่างไร รวมถึงการ เสนอชื่อ ผู้มีสิทธิ์ เป็น ผบ.ตร.ว่าสามามารถทำได้หรือไม่.ตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ .?

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img