บรรยากาศความเคลื่อนไหวที่ศาลล้มละลายกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งในวันนี้ได้มีการนัดไต่สวนวันแรก เรื่องขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นพยายานปากแรก ขออนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ และคณะผู้จัดทำแผน พบว่า ช่วงแรกของการไต่สวน ทนายความฝั่งเจ้าหนี้ ได้มีการสอบถามพยานในประเด็นคุณสมบัติของบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีมีประสบการณ์ในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯของธุรกิจการบิน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยดูแลแผนฟื้นฟูกิจการฯให้กับบริษัท สหฟาร์ม จำกัด แต่ก็ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่ามีค่าใช้จ่ายในการจ้าง บริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นจำนวนเงินที่สูง และมีการสอบถามในประเด็นที่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟูฯ จะมีการขอขยายระยะเวลาอีกหรือไม่โดย นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ รักษาการดีดีบินไทย ในฐานะพยานปากแรก ระบุว่า ในส่วนของการให้บริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด มีคณะทำงาน และการตรวจสอบบริษัทก่อนที่จะให้เข้ามาร่วมดำเนินการ ซึ่งมีความโปร่งใส และเห็นว่าบริษัทฯ มีประสบการณ์การให้ดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการฯ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจการบิน
ทั้งนี้นายชาญศิลป์ ยอมรับว่า ในประเด็นที่เจ้าหนี้แสดงความเห็นห่วงว่าหากไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะขอขยายเวลาในการฟื้นฟูกิจการต่อไปอีก
ขณะที่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่มีรายชื่อเป็นผู้บริหารแผน และพยานปากที่ 2 ยอมรับว่า การฟื้นฟูกิจการฯได้มีการว่าจ้าง บริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เข้ามาร่วมดำเนินการ โดยจ่ายเงินว่าจ้างงวดแรกเป็นจำนวน 22 ล้านบาท และหลังจากนั้นชำระเดือน 15 ล้านบาท ไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งพิจารณาให้การบินไทยดำเนินการแผนฟูกิจการฯได้