นางสาวรัชดากล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.นี้ จะยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำหลากบริเวณพื้นที่ราบเชิงเขาบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยนายกรัฐมนตรีฝากความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขอให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา เพราะความปลอดภัยของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และราชการทุกหน่วยต้องเตรียมภารกิจตนเองให้พร้อมรับทุกสถานการณ์
ทั้งนี้ อิทธิพลพายุ “ซิลากู” ช่วยเติมปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ได้รายงานสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 4 ส.ค.63 เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ 137 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณ 531 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาณน้ำ 86 ล้านลูกบาศก์เมตรและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่ง กอนช. ยังคงเตือนแม้ว่าแนวโน้มน้ำต้นทุนจะมีเพียงพอถึงต้นฤดูแล้งหน้า แต่ยังคงต้องมีการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งเตรียมความพร้อมรองรับน้ำหลากในฤดูฝนและเก็บกักน้ำเพื่อการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปด้วย
The post นายกฯขอบคุณหน่วยงานช่วยปชช.ประสบภัยพายุ appeared first on innnews.