หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"วัชระ" ร้อง "เสรีพิศุทธ์" ช่วยคืนความเป็นธรรมให้ 'วิระชัย' กรณีถูก 'บิ๊กแป๊ะ' สั่งสอบวินัยกลางฤดูโยกย้ายจากเหตุ ดักฟังโทรศัพท์

“วัชระ” ร้อง “เสรีพิศุทธ์” ช่วยคืนความเป็นธรรมให้ ‘วิระชัย’ กรณีถูก ‘บิ๊กแป๊ะ’ สั่งสอบวินัยกลางฤดูโยกย้ายจากเหตุ ดักฟังโทรศัพท์

เมื่อ 5 ส.ค.63 ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธาน กมธ.ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบการออกคำสั่งของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับ พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และกรณีสั่งให้สำรองราชการว่าประพฤติมิชอบหรือไม่

นายวัชระ กล่าวว่า พลตำรวจเอกวิระชัย ซึ่งมีอาวุโสอันดับ 1 ในการที่จะได้รับการพิจารณาขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวาระวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้เหตุใดพลตำรวจเอกจักรทิพย์ จึงสามารถออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับพลตำรวจเอกวิระชัยได้ ทั้งที่เป็นคู่พิพาทกัน ซึ่งขัดกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนและพิจารณา หมวด 1ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ระบุว่า ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวนจะต้องไม่เป็นบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สอบสวน หรือมีส่วนได้เสียในเรื่องที่สอบสวน รวมทั้งผู้ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความใกล้ชิดกับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ผู้ออกคำสั่ง โดยไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเป็นกลางมาสอบสวนในเรื่องนี้ ทั้งนี้ นายวัชระ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียในการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด แต่เห็นว่า การโยกย้ายและลงโทษรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสลำดับที่ 1ในช่วงกลางฤดูโยกย้ายเป็นเรื่องผิดปกติในสายตาของวิญญูชนโดยทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยังเคยยอมรับว่าไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากการให้สัมภาษณ์เรื่องคดีนายบอส อยู่วิทยาด้วยนั้น ทำให้สงสัยว่าการออกคำสั่งกล่าวโทษพลตำรวจเอกวิระชัย จะเชื่อถือได้อย่างไรว่าได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงขอให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และในฐานะประธานคณะกรรมาธิการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเป็นช่วงเวลาที่กำลังจะพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img