ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่า กองทัพบกเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง ขณะนี้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หน่วยความมั่นคงก็ต้องทำงาน แต่การกระทำใดที่จะไปกระทบกระเทือนการแสดงสิทธิเสรีภาพ ตนคิดว่าคนที่ทำแบบนั้น ควรคำนึงถึงขอบเขตใช้สิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็นสภาผู้แทนราษฎรหรือการชุมนุมต่างๆ เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราต้องไม่จาบจ้วง หรือใช้วาจาที่ไม่สุภาพ ต่อบุคคลที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก แต่สิ่งที่ตนพูดนั้นในฐานะคนไทย พูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และขอให้นึกย้อนกลับไป คงจะรู้สึกเสียใจ แม้ประชาชนบางส่วนบางกลุ่มจะไม่พอใจ จึงขอฝากสื่อมวลชน
ผู้บัญชาการทหารบก อ้างถึงสำนักข่าวบีบีซีไทย ซึ่งได้ศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2558 คือ ทฤษฎีสมคบคิด หรือเป็นเรื่องที่น่าศึกษาฝากให้ทุกคนไปดู เพราะเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน และปัจจุบันตนมองแล้วว่า มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นกระบวนการ มีความคล้ายคลึงกับทฤษฎีสมคบคิด มีหลายคนพยายามอธิบายความหมายในทฤษฎีสมคบคิด ข้อมูลของบีบีซีไทยได้มีการพูดถึงนิสิตนักศึกษาผู้มีความรู้ นำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของกองทัพเองได้เฝ้ามอง ติดตามแต่ไม่คุกคาม รวมถึงนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมีคำสั่ง เพียงแต่ให้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมให้เกิดความเรียบร้อย และประสานงานกับตำรวจ แม้แต่จะเดินทางมาชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกเราก็ไม่ได้มีมาตรการอะไรและไม่ได้ติดใจอะไร
ส่วนที่ขณะนี้ม็อบมีการชุมนุมขยายวงกว้างและมีการพูดในเชิงลักษณะหมิ่นสถาบันฯ นั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้มีหน่วยงานความมั่นคง เข้าไปดูจะให้เตือนสติ คงจะลำบาก แต่อยากให้ไปดูว่า ตนเองกลายเป็นหนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่ และเมื่อถามว่าทฤษฎีนี้มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว่า ตนเองเป็นผู้บัญชาการทหารบกจะพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าอยากให้ประชาชนแสดงความเห็นในเรื่องของการปกป้องสถาบันอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วคนดีจะไม่กล้าแสดงออก และกลัวซึ่งหลายๆ คนก็เป็นเช่นนี้ แม้กระทั่งการใช้สื่อโซเชียล ก็ถูกถล่มกลับมา ซึ่งเรื่องนี้มีหน่วยงานด้านการข่าวได้ติดตาม ผู้ใช้ Twitter หรือผู้เปิดแอคเคาท์เอง ได้ใช้ช่องทางทางโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter
ทั้งนี้ มีรีทวิตซึ่งมีค่อนข้างเยอะมากประมาณ 4-5 แอคเคาท์ ที่สามารถทำลักษณะเช่นนี้ได้ ถือว่าเป็นการต่อสู้กันในโลกโซเชียล ซึ่งถนนแห่งความเป็นจริง และรู้ว่าขณะนี้รัฐบาล กำลังแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ดี และทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ หากเราทุกคนสามัคคีกันเราจะผ่านจุดเปราะบางตรงนี้ไปให้ได้ก็จะเป็นเรื่องดี
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ ”ปฏิบัติการรับในสมรภูมิรบบันทึกประวัติศาสการทหาร” ที่เพิ่งค้นพบโดยบุตรสาว ดร.ทิพภานิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา บุตรสาว พล.ต.จักรชัย ศุภางคเสน ได้เขียนถึง เรื่องราวในปี 2475 ว่า ความรักความสามัคคีเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดในชาติไทย ถึงแม้จำเป็นที่จะต้องทำ แต่ความสามัคคีกันเพื่อให้ผ่านอุปสรรคไปได้ ขณะที่รัฐบาลและกองทัพบก ก็มีเรื่องที่ท้าทาย ที่จะต้องดำเนินการในอนาคตเนื่องจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และไทยก็เป็นต้นแบบและตัวอย่างของหลายประเทศ อยากให้มีความสามัคคีและผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้
ส่วนที่มีความพยายามปลุกเหตุการณ์ 2475 ขึ้นมาอีกครั้ง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการ และกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเคลื่อนไหวการเมือง ฉีกรูป ผบ.ทบ. นั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวติดตลกว่า ไม่เป็นไรเดี่ยวให้แบทแมนรีเทิร์นไปจัดการ เพราะเพนกวินแพ้แบทแมน (จากภาพยนต์แบทแมน ตอน ศึกมนุษย์เพนกวินกับนางแมวป่า)
ขณะที่นายสาธิต เซกัล ประธานหอการค้าไทย-อินเดีย เดินทางเข้ามาพบ พล.อ.อภิรัชต์ แต่ว่าก็ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกเป็นผู้ดำเนินการ เพราะติดภารกิจ เมื่อถามว่าจะมีการซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือไม่เพราะนักการเมืองความเป็นห่วง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า คงไม่หรอก