เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามคำสั่งที่ 219/2563 ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.กลับมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรณีดังกล่าว จากเมื่อ วันที่ 23 ม.ค.63 มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 22/2563 ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี และวันที่ 23 ก.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำเรียนข้อมูลไปว่า จากรากฐานของคำสั่งเดิมแจ้งว่าเพื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่เดือน ม.ค. จนถึงวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทราบว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ส่งคืนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงว่าขั้นตอนที่นายกฯสั่งการเสร็จแล้วที่เหลือเป็นขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการต่อ เช่นนำผลสืบสวนข้อเท็จจริงมาพิจารณาต่อจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องธุรการ เช่น กองวินัย รวมทั้งการมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เมื่อเดือน ม.ค.63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคำสั่งที่ 28/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค.63 สั่งการให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.ไปปฏิบัติการที่ ศปก.ตร.โดยขาดจากหน้าที่เดิม และไม่ได้มีการมอบหมายงานในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคำสั่งที่ 382/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค.63 แจ้งว่าเนื่องจากภารกิจมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว ให้ยุติการปฏิบัติราชการให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบ.ตร.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสรุปทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาจะเข้าสู่ทางธุรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ ได้มอบให้สำนักงานกำลังพลและกองวินัยพิจารณา น่าจะเร็วๆนี้ภายใน 1-2 วัน จะส่งผลให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ดำเนินการต่อ ส่วนจะมีมูลหรือไม่ผมไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ของการกลับมาทั้ง 2 รอง ผบ.ตร. ในช่วงที่จะมีการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” คนต่อไป โฆษกตร. กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากจเรตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามคำสั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น ส่วนการดำเนินการว่าผิดหรือไม่อย่างไร กระบวนการทางวินัยจะดำเนินการต่อ เป็นการต่อสู้ตามกระบวนการปกติ
ทั้งนี้ต้องแยกกันคนละส่วน การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ยังไม่เกิด เมื่อกลับมา ผบ.ตร.ก็จะมอบหมายภารกิจเหมือน รอง ผบ.ตร.ทุกคน การแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยกฎหมาย ต้องแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.-จเรแห่งชาติ กฎหมายเขียนไว้อยู่แล้ว แต่ตอบไม่ได้เพรากระบวนการแต่งตั้งยังไม่เกิด
