หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินกสิกรไทยปลื้ม โครงการช่วยลูกค้าสู้โควิด-19 รุดหน้า เร่งช่วยต่อเนื่องหลังคลายล็อกดาวน์

กสิกรไทยปลื้ม โครงการช่วยลูกค้าสู้โควิด-19 รุดหน้า เร่งช่วยต่อเนื่องหลังคลายล็อกดาวน์

ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าเต็มที่ช่วยลูกค้าช่วงโควิด-19 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 รายยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000ล้านบาทและให้เงินทุนเพิ่มกับลูกค้า 94,000 รายเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตจำนวนเงินรวม 156,000ล้านบาทอีกทั้งยังดำเนินการโครงการพิเศษช่วยให้ธุรกิจรักษาการจ้างพนักงานภายใต้โครงการ “เถ้าแก่ใจดีเจ้าหนี้มีใจ” และ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” โดยได้ช่วยไปแล้ว 1,144ล้านบาทรักษาการจ้างพนักงาน 49,000 รายและธนาคารฯเร่งดำเนินการช่วยลูกค้าต่อเนื่องหลังคลายล็อกดาวน์

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าตามที่ธนาคารฯได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาด้วยการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ 650,000 รายยอดสินเชื่อคงค้าง 828,000ล้านบาทและการให้เงินทุนเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับลูกค้าธุรกิจ94,000 รายจำนวน 156,000 ล้านบาทซึ่งเป็นยอดการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30% โดยธนาคารฯยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้าที่ยังเดือดร้อนให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่รอดต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

นอกจากความช่วยเหลือที่สอดรับตามนโยบายของภาครัฐแล้วธนาคารฯยังดำเนินการโครงการพิเศษโดยมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือพนักงานของธุรกิจให้อยู่รอดโดยใช้งบประมาณจำนวน 1,500 ล้านบาทภายใต้โครงการ “เถ้าแก่ใจดีเจ้าหนี้มีใจ” โดยธนาคารฯลดดอกเบี้ยให้กับธุรกิจที่ยังมีกำลังอยู่เพื่อให้เจ้าของนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินเดือนพนักงานและโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นการให้เงินทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กในอัตราดอกเบี้ย 0% 10 ปีโดยปีแรกไม่ต้องจ่ายคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานซึ่งทั้ง 2 โครงการได้ผลตอบรับที่ดีและเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ธนาคารฯตั้งไว้โดยให้เงินช่วยลูกค้าไปแล้วรวม 1,144 ล้านบาทสามารถช่วยรักษาการจ้างพนักงานได้จำนวน 49,000 ราย

ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณน้ำใจจากเจ้าของธุรกิจบางรายที่ปฏิเสธความช่วยเหลือของธนาคารฯเนื่องจากมองว่าตัวเองยังไหวและเข้าใจดีว่าธนาคารฯไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคนจึงเสียสละเพื่อให้ธนาคารฯนำเงินไปช่วยเหลือธุรกิจที่เดือดร้อนกว่า

ในช่วงตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลูกค้าธุรกิจของธนาคารฯมียอดรวมเงินฝากเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าบางส่วนยังมีกำลังพอที่จะชำระหนี้หลังครบกำหนดพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยธนาคารฯติดต่อลูกค้าเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์หรือดูความจำเป็นของลูกค้าเพื่อนำเสนอความช่วยเหลือที่เหมาะสมทั้งนี้หากลูกค้าท่านใดที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อเข้ามาที่ธนาคารฯได้ธนาคารฯมีความตั้งใจเต็มที่จะช่วยให้ลูกค้าที่เดือดร้อนด้วยเงินทุนที่ธนาคารฯมีอยู่

นายพัชรกล่าวทิ้งท้ายว่าแม้ในช่วงวิกฤตที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก
แต่ลูกค้ายังมีวินัยทางการเงินและมีการชำระหนี้เข้ามาธนาคารฯขอขอบคุณลูกค้าทุกคนหากทุกคนช่วยเหลือและร่วมมือกันเราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img