โดย GIT ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จัดการฝึกอบรมครบทั้ง 5 จังหวัดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ให้เหลือ 20 ราย ก่อนที่จะช่วยพัฒนาเชิงลึกต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผลงานต้นแบบที่ผลิตได้ จะถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายจริง และทาง GIT จะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ โดยมีช่องทางออนไลน์ และนำไปจัดแสดงภายในงานแสดงสินค้า เช่น งานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำตลาดต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ GIT ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาค จำนวน 15 จังหวัด มีผู้ผ่านการอบรมกว่า 1,300 ราย และสามารถผลิตชิ้นงานเครื่องประดับต้นแบบได้กว่า 30 คอลเลกชัน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับผู้ผลิตในท้องถิ่น และหลายรายสามารถขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศได้แล้ว ล่าสุด GIT ได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ปรึกษา ชื่อว่า “CARAT” (กะรัต) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจในภูมิภาคได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับ โดยสถาบันได้จัดผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ทั้งด้านอัญมณี โลหะมีค่า และการออกแบบ พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วผ่านระบบ IOS และ Android