ส่วนกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลควรปรับ ครม.ให้เสร็จก่อน เกรงว่ารัฐมนตรีเศรษฐกิจที่คาดว่าจะถูกปรับออกจะไม่มีกะจิตกะใจทำงานนั้น นายจิรายุ ไม่ต้องเป็นห่วงทุกคนเป็นมืออาชีพ ทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่สนเรื่องการเมือง ที่สำคัญ ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม. ในช่วงนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพียงคนเดียว ท่านรู้ดีที่สุดว่าจะทำอย่างไรในยุค New Normal เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน นายจิรายุ เอาเวลาไปห่วงปัญหาความขัดแย้งกันเองของคนในพรรคเพื่อไทยจะดีกว่า
ขณะเดียวกัน นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เตรียมจัดทัพ 61 ส.ส.อภิปรายงบปี 64 นั้น รัฐบาลไม่ได้กังวลอะไร เป็นการใช้กลไกของสภาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะ เพราะประชาชนจะได้ประโยชน์หากการอภิปรายเน้นเนื้อหาสาระมากกว่าการใช้วาทกรรมโจมตีรัฐบาล ส่วนจะอภิปรายเพื่อไม่ให้มีการจ่ายซ้ำซ้อนและป้องกันการทุจริตนั้น ขอยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นเด็ดขาด การทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาลทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ขอให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจ และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูดสุดกับพี่น้องประชาชน

