นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์สร้างฐานลูกค้าประจำ ขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายในระยะยาว โดยมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กัน คือ การเชื่อมโลกออฟไลน์เข้ากับโลกออนไลน์อย่างลงตัว ผ่านระบบเดลิเวอรีที่จะช่วยสร้างผลกำไรให้ธุรกิจในระยะยาว และขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์ที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ก้าวทันโลกธุรกิจ ก็จะสามารถเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้อย่างไม่ยากด้วยเช่นกัน
ธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นหนึ่งในโมเดลของรัฐบาลในการนำเอามาสร้างอาชีพให้กับประชาชนหลังวิกฤตโควิด-19 เพราะแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่ลงทุนง่าย ผู้ลงทุนไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ เพียงแค่ปฏิบัติตามระบบที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนดเอาไว้ก็สามารถเปิดร้านขายได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ ทำการตลาด เพราะเจ้าของแฟรนไชส์ ได้ออกแบบระบบที่มีมาตรฐาน และจัดทำคู่มือที่พร้อมให้ผู้ลงทุนปฏิบัติตามอย่างง่ายดาย
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้คัดเลือกผู้ประกอบการ จำนวน 40 ราย ดำเนินการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ด้านการบ่มเพาะองค์ความรู้และทักษะการสร้างมาตรฐานธุรกิจ รวมถึงจะมีผู้เชี่ยวชาญประเมิน วิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละธุรกิจ ที่สำคัญยังมีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก ณ สถานประกอบการ เป็นรายธุรกิจ และเสริมในเรื่องการศึกษาดูงานธุรกิจที่เป็นต้นแบบที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา มีธุรกิจเข้ารับการประเมินและผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินจาก กรมฯ และจำนวนทั้งสิ้น 334 ราย
และรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เหมาะสำหรับลงทุนในช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ก็คือ แฟรนไชส์ขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก ใช้พนักงานจำนวนน้อย และสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแฟรนไชส์ในรูปแบบคีออส หรือ ซุ้มร้านค้าที่ใช้พื้นที่ไม่เยอะ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ทำให้ผู้คนนิยมซื้อสินค้ากลับบ้านแทนการนั่งในร้าน
นอกจากนี้ แฟรนไชส์ขนาดเล็กจะใช้พื้นที่ไม่มาก ทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่จะอยู่ในแหล่งชุมชน หรือตามตลาดนัดทั่วไป จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของได้สะดวก

