ว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทบีทีเอส ร่วมทดสอบความพร้อม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวระหว่างเปิดงานว่าคงเกิดประโยชน์ในเรื่องการสัญจรไปมาของประชาชนโดยเฉพาะในเขต กทม. ซึ่งวันนี้ต้องแก้ไขและพัฒนาหลายเรื่องด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการขนส่งมวลชน เพื่อให้การเดินทางสะดวกไม่ติดปัญหาจราจร โดยประเทศที่กำลังพัฒนาและพัฒนาแล้วก็ดำเนินการแบบนี้ ซึ่งในการลงทุนนั้น มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อลดทอนค่าใช้จ่าย ที่เชื่อว่าทุกคนก็รักประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลนี้พยายามทำในทุกระบบ ซึ่งจะมีรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอสำหรับประชาชน ที่มีหลายระดับ และมีความแตกต่างด้านรายได้ ซึ่งในเรื่องของรถเมล์โดยสารรัฐบาลนี้กำลังหาวิธีการปรับปรุงระบบการให้บริการของ ขสมก. ให้ดีขึ้น หลายๆ เรื่องต้องมีการฟื้นฟูพัฒนา เพียงขอความร่วมมือและร่วมใจในการทำงานการลงทุน ซึ่งจะต้องทำให้เกิดความโปร่งใสและไม่สร้างภาระให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ระบบขนส่งขั้นพื้นฐานมีการแบ่งแยก แต่ไม่ใช่เป็นการแบ่งแยกชนชั้นแต่เป็นการแบ่งแยกตามความสามารถของผู้ใช้บริการ ขอให้คิดอย่างนี้ อย่าคิดแต่ว่ารัฐบาลมุ่งหวังการลงทุน แต่ถ้าไม่เกิดการลงทุนแล้วจะเกิดการบริการแบบนี้ได้หรือไม่ แต่ระบบขนส่งจะต้องเชื่อมโยงสถานศึกษา ชุมชน ศูนย์การค้า เป้าหมายคือให้คนไทยได้ประโยชน์จากการขนส่ง ทั้งการใช้รถใช้ถนน วันนี้ขอให้ช่วยกันจะให้พูดจะให้สอดคล้องในทางที่ถูกต้อง ใครจะพูดอะไรต้องฟังหมด แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็จะเลือกฟัง ต้องขอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผู้ประกอบการในการดำเนินการทั้งหมด วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีขึ้นในบ้านเมืองเราต้องคิดว่ามีสิ่งที่ดีขึ้นมากกว่าสิ่งไม่ดี ส่วนไหนไม่ดีก็แก้กันไป ส่วนไหนที่ดีก็ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ บนพื้นฐานความเข้าใจ ความโปร่งใส ไม่มีทุจริต และมีประสิทธิภาพนั่นคือหลักการของรัฐบาลนี้
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางโดยขบวนรถไฟฟ้าจากสถานีห้าแยกลาดพร้าว ไปยังสถานีวัดพระศรีมหาธาตุโดยเมื่อมาถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ นายกรัฐมนตรี ได้กดแตร 3 ครั้ง ก่อนถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะผู้บริหารบีทีเอส จากนั้นก่อนเดินทางกลับได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งพร้อมกับนักเรียนมาต้อนรับและตะโกนว่า “รักลุงตู่ รักตลอดไป” ขณะที่นายกฯ ตะโกนตอบกลับ “รักทุกคน”ก่อนออกเดินทางไปทันที
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพหลโยธินและ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 % ถึงสถานีคูคตภายในสิ้นปี 63 โดยให้บริการฟรี ไม่เก็บค่าโดยสาร ในช่วงทดลองระบบนี้ สำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสาร อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเบื้องต้นกำหนดเพดานค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 65 บาท และเน้นมาตรการป้องกันโควิด-19