ทั้งนี้ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวล และมองเห็นหายนะด้านเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดว่าไม่เก่งเศรษฐกิจแต่มีความจริงใจ ตนเห็นด้วยที่นายกฯไม่เก่งเศรษฐกิจจริงๆ ส่วนเครื่องความจริงใจที่ตนมองไม่เห็น ทั้งเรื่องการนำเสนอ พ.ร.ก. 3 ฉบับ และการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมา สิ่งที่พรรคเพื่อไทยอภิปราย เน้นเห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ว่าต้องทำ แต่สิ่งที่คัดค้านคือในรายละเอียดไม่มีความชัดเจนว่าเงินที่ใช้ลงไปจะได้เยียวยาฟื้นฟู และพัฒนาเศษฐกิจจริง และการใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ใช้เงินอย่างไม่โปร่งใส
ดังนั้น ต้องการจะแก้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ให้ตรวจสอบได้ โดยการตั้งกรรมาธิการ และรายงานงบประมาณทุกๆ 3 เดือน เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ที่ช่วยให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบให้เงินไม่รั่วไหล
ส่วน พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 พรรคเพื่อไทยเสนอว่าควรตัดงบปี 63-64 ก่อนแล้วค่อยไปกู้เงิน แต่รัฐบาลแสดงความไม่จริงใจโดยการพิจารณา พ.ร.ก. กู้เงิน ก่อนและจึงพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบฯ นอกจากนี้การตัดงบประมาณก็ไม่จริงใจเพราะแต่ละหน่วยงานตัดน้อยมาก ทั้งนี้มีการอ้างว่ากู้เพื่อช่วยโควิด แต่การตัดงบประมาณนี้กลับนำไปไว้ในงบกลาง ที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเพียงคนเดียวในการใช้ จึงจำเป็นต้องอภิปรายและเสนอให้มีการตรวจสอบ

