29 พ.ค. กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป.
พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. , ร.ต.อ.ณัชณวินท์ กฤตปภาคชภัค , ร.ต.อ.ณัฐพล ผลชอบ รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฎิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. บูรณนาการกับ นายธีรเดช พวงเงิน นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.
ร่วมกันจับกุม นายศุภชัย หรือ ธนิก (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1350/2549 ลง 22 มี.ค.2549 ในความผิดฐาน
- เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดนทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย
- เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำการต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
จับกุม ได้บริเวณทางสาธารณะ ซ.สุชาวดี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2543 นายศุภชัย หรือ ธนิก ฯ ผู้ต้องหาในขณะนั้นมีตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานการคลัง สำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ มีหน้าที่เก็บและดูแลรักษาเหรียญกษาปณ์ ได้เบิกเหรียญกษาปณ์เป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท แต่ไม่มีเอกสารขออนุมัติเบิก และได้นำเหรียญกษาปณ์ดังกล่าวออกจากสำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ต่อมาถูกจับได้จึงถูกไล่ออกจากราชการ และให้ชดใช้เงินคืน ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย.2549 ศาลได้อนุมัติหมายจับเพื่อจับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งหมายจับกำลังจะหมดอายุความ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ในบ้านพักย่านบางกรวย นนทบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบบ้านพักดังกล่าวเพื่อเข้าตรวจค้น แต่ นายศุภชัย หรือธนิก ฯ ผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งออกหลังบ้านหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกติดตามจับกุม ไปพบว่า นายศุภชัยหรือธนิก ผู้ต้องหาอยู่ริมถนนทางสาธารณะ ซ.สุชาวดี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ส่ง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหมายจับจะหมดอายุความวันที่ 22 มิ.ย.2563 (อีก 26 วัน)
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเก็บรักษาเหรียญกษาปณ์ แต่ช่วงดังกล่าวตนมีหนี้สินจึงได้นำเอาเหรียญจำนวน 120,000 บาท ออกไปใช้หนี้ โดยคิดว่าถ้ามีเงินจะนำมาใช้คืน แต่ถูกจับได้เสียก่อน หลังจากนั้นจึงถูกไล่ออกจากราชการ และได้ชดใช้เงินจำนวน 120,000 บาท ไปแล้ว ภายหลังทราบว่ามีคดีจึงได้หลบออกจากพื้นที่มาขายอาหารตามสั่ง จนสุดท้ายมาหลบอยู่บ้านพักหลังดังกล่าวมาได้ประมาณเกือบ 2 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบในครั้งนี้