หน้าแรกการเมืองนายกฯแจงสภารับพรก.เงินกู้กระทบหนี้สาธารณะจำเป็นช่วยคน

นายกฯแจงสภารับพรก.เงินกู้กระทบหนี้สาธารณะจำเป็นช่วยคน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในความจำเป็นของการออก พ.ร.ก.เงินกู้ ฉบับที่ 1 ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ และยังยังไม่มียารักษา ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนทุกสาขาอาชีพ รัฐบาลจึงมีมาตรการการปิดพื้นที่ เว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทย หดตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุด หลังจากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่มีผู้ติดเชื้อตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. จึงมีความจำเป็นปิดพื้นที่ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทำให้สถานประกอบการต่างๆไม่สามารถเปิดทำการและสร้างรายได้ จากการปิดกิจการ และสถานที่ต่างๆ รัฐบาลประมาณการว่า มีการเสียรายได้กว่า 9.28 แสนล้านบาท และมีคนว่างงานนับล้านคน

ทั้งนี้ แม้ว่าการแก้ไขที่ผ่านมารัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทาง ในการจัดการงบประมาณ แต่เงินยังไม่มีเพียงพอในการช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประเทศรัฐบาล จึงมีความจำเป็น โดยเฉพาะ การสร้างสถานบริการด้านการสาธารณสุข การจ่ายเงินเยียวยา / การฟื้นฟู เศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดหายงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลไม่สามารถใช้กฎหมายปัจจุบันได้จึงมีการตราพระราชกำหนดซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้ายของรัฐบาลเพื่อความมั่นคงปลอดภัยทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่าครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการวางแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบและเพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างโปร่งใส จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการคัดกรองการใช้จ่ายเงินกู้ขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความพร้อมด้านสาธารณสุขช่วยเหลือประชาชน / เกษตรกร / ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในประกอบอาชีพ ตลอดจนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อสร้างความ เชื่อมั่นให้ประเทศกลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็ว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน โดยไม่อาจหลีกเลี่ยง จึงต้องมีการตราพระราชกำหนดให้อานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 โดยหวังว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาอนุมัติ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว

จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือทางการเงินผู้ประกอบวิสาหกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงหลักการและเหตุผลในการตรา พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 2019 ว่า ผลกระทบการแพร่ระบาดวรัสโควิด-19 เกิดผลกระทบใจวงกว้าง ซึ่งผู้ประกอบการทางธุรกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งจ้างงาน การให้สินเชื่อเพิ่มเติม และชะลอการชำระหนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ จึงต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจเกิดสภาวะขาดสภาพคล่อง ซึ่งอาจกระทบต่อระบบเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ และมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายฉบับนี้

ขณะที่ ความจำเป็นในการออก พ.ร.ก.BSF เนื่องจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงทั่วโลกส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และไม่มีการคาดการณ์ว่าจะยุติลงเมื่อใด ทำให้เกิดภาวะชะงักงันฉับพลัน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ที่เป็นการลงทุนสำคัญทำให้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องกระทันหันกว่าแสนล้านบาท และทำให้ผู้ออกตราสารหนี้ผิดนัดชำระเงินกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประชาชนโดยรวม การออก พ ร.ก.BSF มีความฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วน

ดังนั้น จึงต้องมีการตั้งกองทุน BSF โดยเป็นมาตรการเชิงป้องกันเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบการเงินมาตรการช่วยเหลือจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอกับขนาดของตลาดตราสารหนี้ต้องพร้อมใช้และดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว มีกลไกในการบริหารและควบคุมความเสี่ยง มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะสั้น โดยการดำเนินงานของกองทุนมีธรรมาภิบาล โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img