นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันภายหลังนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกระบวนการฟื้นฟูและการดำเนินกิจการของการบินไทย รวมถึงการจ่ายหนี้แทนได้ เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ?ของบริษัทการบินไทยและนัดไต่สวนอีก 3 เดือนข้างหน้า (วันที่17สิงหาคม 2563) ซึ่งกระบวนการต่อจากนี้ ในฐานะมินิบอร์ด จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการบินไทยเข้าสู่กฎหมายล้มละลายมาตรา 90/12 แล้ว กระบวนการต่างๆ จึงหยุดชะงัก ซึ่งในกฎหมายระบุไว้ชัดว่าเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์?ฟ้องล้มละลาย หรือทวงหนี้ ทำได้เพียง ยื่นขอรับชำระหนี้เท่านั้น และได้มีการชี้แจง กับ ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่มาเข้าพบในวันนี้ให้รับทราบสถานภาพของการบินไทยแล้ว

นายวิษณุ ยืนยันว่าจากนี้ไปการบินไทยสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติควบคู่ไปกับการแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นเรื่องของบอร์ดบริหารภายใน ซึ่งในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับผู้บริหารไม่เกี่ยวข้องกับตน ย้ำยังไม่ได้มีการนัดหารือนัดแรกกับคณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้คาดว่าประมาณ 3 เดือนข้างหน้าหลังกระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นและศาลรับแผนฟื้นฟู จะมีการตั้งผู้บริหารแผนที่คาดว่าจะเป็นคนนอกเข้ามีอำนาจแทนบอร์ดบริหารของการบินไทยเพื่อลดบทบาทในส่วนนี้ลง และจะเข้าสู่การทำแผนฟื้นฟูอีกประมาณ 3 เดือนรวมระยะเวลาทั้งหมด ประมาณครึ่งปี พร้อมย้ำภายในปีนี้ ไม่ทันพ้นโควิด-19 ก่อนเพราะยังไม่ทราบจำนวนเจ้าหนี้ว่ามีมากหรือน้อยและโดยปกติกระบวนการฟื้นฟูจะใช้เวลาประมาน 5 ปี โดยรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ตามกฎหมาย ทำได้เฉพาะบทบาทของภาครัฐ รวมถึงการติดตามคำสั่งศาลทุกขั้นตอนเพราะยังมีบางเรื่องที่รัฐยังคงต้องเข้าไปจัดการ

ส่วนภายหลังการฟื้นฟูจะนำการบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า กระทรวงการคลังและธนาคารออมสินถือหุ้นรวมกันอยู่ที่เกือบครึ่ง นายวิษณุกล่าวย้ำว่า ผมไม่ขอตอบอะไรเพราะคนจะหัวเราะเยาะ เพิ่งจะล้มวานซืนนี้เองจะเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว