เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.สิริกานต์ รู้เพราะจีน หรือ น.ส.เสฬษศิธร เพชรรัตน์ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 286/2560 ลงวันที่ ลงวันที่ 28 มิ.ย.60 ข้อหา“ลักทรัพย์, ยักยอกทรัพย์”และหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 393/2560 ลงวันที่ 28 มิ.ย.60 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,เป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์มากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้และนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ได้ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ซ.บรมราชชนนี 72 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.
ทั้งนี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 มีผู้เสียหายร้อยกว่าราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ว่าถูก น.ส.สิริกานต์ แม่ค้าขายข้าวแกงรายหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ชักชวนให้เล่นแชร์ผ่านเพจในเฟซบุ๊กชื่อว่า “บ้านเววา” ให้ค่าตอบแทนสูง สำหรับการเล่นแชร์นั้น มีทั้งแบบรายวันและรายเดือน โดยกำหนดเงินต้นตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท ผู้เล่นบางรายมีการเล่นหลายมือ-หลายแบบ มีการชักชวนเพื่อนๆ คนในครอบครัวมาเล่นเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมาผู้ต้องหาจ่ายเงินตามปกติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.60 ผู้ต้องหาเริ่มผิดนัด ไม่โอนเงินให้ลูกแชร์ เมื่อสอบถามไปทางข้อความส่วนตัวก็บ่ายเบี่ยง จนมีการปิดเฟซบุ๊ก ปิดไลน์หนี โดยมีวงเงินความเสียหายมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นลูกค้าข้าวแกงแทบทั้งหมด นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาหลบหนีได้ก่อเหตุลักทรัพย์และยักยอกในพื้นที่เดียวกันและได้หลบหนีการประกันตัวในคดีดังกล่าวอีกด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าน.ส.สิริกานต์ ผู้ต้องหาได้ศัลยกรรมใบหน้าและเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.เสฬษศิธร หลบหนีมากบดานใน กทม. จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน น.ส.สิริกานต์ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าได้ชดใช้ค่าเสียหายบางส่วนแก่ลูกแชร์แล้ว และได้พูดคุยเจรจากับผู้เสียหายแล้ว จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป