สำหรับการประชุมในวันนี้ คาดว่า จะเป็นการติดตามสถานการณ์การแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระทรวงกลาโหมสนับสนุนสถานที่ State Quarantineการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 และการลดช่วงเวลาเคอร์ฟิว ที่จากเดิม เวลา 23.00- 04.00 น. เป็นเวลา 24.00-04.00 น. หรือ 23.00-03.00 น. เพื่อให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้และอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตมากขึ้น
นอกจากนี้ ให้กำลังพลเตรียมความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบจากสาธารณภัยทุกรูปแบบรวมทั้งพายุไซโคลนอำพัน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งกองทัพมีศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดู นายกรัฐมนตรี กำชับเหล่าทัพในติดตามดูภาพรวมสถานการณ์ที่สัปดาห์นี้สภาจะมีการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และ พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 ของทุกกระทรวง เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหาโควิด-19 กว่า 1 แสนล้านบ้าน ที่ ในส่วนของกระทรวงกลาโหมมีมติให้แต่ละเหล่าทัพตัดงบประมาณของตนเอง อย่างน้อย 20% ขณะเดียวกัน คาดว่า นายกรัฐมนตรี จะมีการกำชับให้กองทัพมีการปรับระเบียบปฏิบัติตามวิถี New Normal
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางมาประชุมสภากลาโหมคาดว่าจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการปรับย้ายนายทหาร ประจำปี 2563 ที่ในปีนี้มีตำแหน่งสำคัญระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เกษียณอายุราชการ ทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมที่ปรึกษาทหารผ่านศึก ที่จะเกษียณอายุ
อย่างไรก็ตาม การประชุมสภากลาโหมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่กระทรวงกลาโหมหลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 เดือนที่ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่แทน และ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นายกรัฐมนตรี จะประชุมผ่านระบบ Video Conference