โดยมาตรการที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอ คือ รัฐช่วยจ่ายค่าจ้าง โดยมีข้อแม้ว่านายจ้างต้องคงการจ้างงานไว้ หรือแม้กระทั่งสินเชื่อสำหรับพยุงการจ้างงานโดยเฉพาะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ แต่รัฐบาลเลือกที่จะไม่ทำ การดำรงการจ้างงานสามารถเอาไปผูกเป็นเงื่อนไขได้ในเกือบทุกมาตรการที่ช่วยเหลือภาคธุรกิจ เมื่อไม่มีมาตรการหยุดเลือดการตกงาน การว่างงานจึงกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก จึงส่งผลต่อเศรษฐกิจจึงสูง ดิ่งลึกกว่าประเทศอื่น การแก้ไขจึงต้องหันไปใช้งบประมาณเยียวยามากขึ้น เพราะรัฐไม่เลือกที่จะป้องกันแต่เน้นมาเยียวยาทีหลัง และการแช่แข็งเศรษฐกิจประเทศ ทำเกินความจำเป็นไปมาก พึงระลึกว่ารัฐบาลที่น่าชื่นชมไม่ใช่รัฐที่หยุดการระบาดด้วยต้นทุนทางเศรษฐกิจที่มหาศาล และไม่ใช่รัฐที่ไม่ยอมแลกต้นทุนอะไรเลยในการควบคุมโรค แต่ผู้ที่ชนะในครั้งนี้ คือ รัฐที่สมดุลคุมการระบาดอยู่ในระดับที่รับไหวและประคองเศรษฐกิจให้พอยืนอยู่ได้ในวันที่โลกยังไม่มีวัคซีน ซึ่งทั้งหมดตอบคำถามที่ว่าทำไมไทยโควิด คลี่คลายเร็ว แต่สร้างรอยแผลฉกรรจ์กว่าประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เลยเป็นเรื่องที่ น่าเสียดายและน่าเศร้าที่ความเสียสละของประชาชนและความทุ่มเทของแพทย์ ถูกหักล้างหมดสิ้นด้วยมาตรการที่ผิดพลาดของรัฐบาล