ส่วนเรื่องการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 นั้น จะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่จะครบกำหนดใช้ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยจะต้องมีความสอดคล้องกันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ สมช. จะมีประชุมในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. ว่า จะมีการจะขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปเบื้องต้น จากนั้นจะเสนอตามขั้นตอนต่อไปโดยเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ และ ครม. พิจารณาต่อไป ทั้งการผ่อนปรนระยะที่ 3 และการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 1 และ 2 พบว่าประชาชนมีความเคร่งครัดและให้ร่วมมือ ส่งผลให้ตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศ และการปฎิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่สิ่งที่กังวลคือการติดเชื้อจากภายนอกประเทศ ที่ต้องหามาตรการและแนวทางที่เหมาะสมรองรับก่อนที่จะมีการทยอยเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศ
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบกิจการบางประเภท อาทิ นวดแผนโบราณ รวมถึงสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่เรียกร้องขอให้มีการผ่อนปรน นั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ก็มีความรู้สึกเห็นใจในทุกกิจการกิจกรรม ซึ่งตนก็รับฟัง แต่จะต้องมีการพิจารณาเพื่อหาแนวทางต่างๆโดยปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ และอยู่ภายใต้หลักการ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น เพราะจะมีผลทำให้การป้องกันลำบากมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการก็จะต้องมีแนวทางและปรับตัวการประกอบธุรกิจของตัวเองด้วย