นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Rangsiman Rome‘ กล่าวถึงประเด็นการจัดการชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งว่า ในการชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งและปฏิเสธการสืบทอดอำนาจของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งต้องเผชิญกับความยากลำบาก ไม่ว่าจะถูกขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพ หรือถูกดำเนินคดี หลายคนถูกดำเนินคดีตามคำสั่ง คสช. ขณะที่อีกไม่น้อยถูกดำเนินคดีตามมาตรา 116 ซึ่งเป็นเรื่องของการยุยงปลุกปั่น อันเป็นความผิดที่อยู่ในหมวดความมั่นคงของราชอาณาจักร ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนมักจะยื่นคำร้องและคัดค้านการประกันตัวไปที่ศาลอาญาเสมอ อย่างไรก็ดีตลอดหลายวันที่ผ่านมาไม่มีใครที่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียวเพื่อประกันตัว เพราะศาลล้วนยกคำร้องของพนักงานสอบสวนทั้งสิ้น ไม่ว่าคดีนั้นจะเป็นคดีตามข้อหาคำสั่ง คสช. หรือมาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญาก็ตาม
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า จุดที่น่าสนใจของเรื่องนี้ เริ่มขึ้นวันนี้ เนื่องจากผมได้ทำหนังสือเลื่อนการพบพนักงานสอบสวนจากวันที่ 22 ก.พ. มาเป็น วันที่ 5 มีนาคม ซึ่งผมได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามปกติ แน่นอนว่าพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัวในชั้นนี้ โดยที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญารัชดา ผลปรากฎว่า ศาลอาญามีคำสั่งฝากขัง โดยไม่ได้มีคำอธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุใดจึงสั่งแตกต่างจากคนอื่นๆ และได้บอกกล่าวว่าหากประสงค์มายื่นประกันตัวก็ให้มายื่นเสีย ซึ่งเงินประกันตัวที่ต้องใช้คราวนี้มีหลักทรัพย์ด้วยกัน 50,000 บาท แม้ถึงที่สุดผมจะได้กลับบ้าน แต่หากพิจารณาอย่างถึงที่สุดจะพบว่า ในคดีเดียวกันที่มีข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน กลับมีคำสั่งต่อเรื่องเดียวกันแตกต่างกัน น่าสงสัยว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย เห็นทีความเป็นเอกภาพของคำสั่งคำพิพากษาคงถูกตั้งคำถาม ระบบกฎหมายจะดำรงอยู่ได้อย่างไร หากแนวของศาลขาดความเป็นเอกภาพเช่นนี้
“วันพรุ่งนี้ 10 โมงเช้าผมยังต้องไปขึ้นศาลแขวงปทุมวัน ในคดีพิมพ์ลายนิ้วมือ ส่วนวันที่ 7 มีนาคม มีคดี MBK39 ที่ต้องไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน ช่วงนี้งานคดีนั้นเยอะจริงๆ” นายรังสิมันต์ กล่าว